ประชาชนกว่า 8 ล้านคนในสหรัฐฯ ไม่มีไฟฟ้าใช้ หลังได้รับผลกระทบจากพายุแซนดี้

ชาวอเมริกันเริ่มเก็บกวาดซากความเสียหายจากซูเปอร์พายุแซนดี้ ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อพื้นที่ชายฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะชายฝั่งรัฐนิวเจอร์ซี่ และมหานครนิวยอร์ค ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังมีประชาชนกว่า 8 ล้านคน ที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงถึง 43 คน

ประชาชน 8 ล้านคนที่อาศัยในรัฐต่างๆ 15 รัฐ รวมถึงกรุงวอชิงตัน ดีซี ยังต้องอาศัยท่ามกลางความมืดมิด และจะยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากอิทธิพลของซูเปอร์พายุแซนดี้

โดยมีรายงานว่า ผู้ให้บริการไฟฟ้าต้องปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าถึง 3 เตา และจับตาเตาปฏิกกรณ์เตาที่ 4 อย่างต่อเนื่อง เพราะพายุสร้างความเสียหายแก่ระบบจ่ายไฟ และกระทบกับระบบหล่อเย็น แต่ยืนยันว่าไม่มีอันตราย

แม้ขณะนี้พายแซนดี้จะอ่อนกำลังลง แต่ยังอันตรายอยู่ โดยพายุกำลังเคลื่อนตัวขึ้นเหนือ ไปทางทิศตะวันตกของรัฐนิวยอร์ค และจะเคลื่อนเข้าสู่แคนาดาต่อไปในช่วงเย็นวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น

 

 

ขณะที่มีการเผยแพร่ภาพรันเวย์สนามบินลากาเดียในนครนิวยอร์ค ที่ยังมีน้ำท่วมพื้นผิว จึงยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ แต่สำหรับสนามบินนานาชาติเจเอฟเค สนามบินใหญ่อีกแห่งในนครนิวยอร์ค และสนามบินนวร์ก ในนิวเจอร์ซี สามารถให้บริการแบบจำกัดได้แล้วในวันนี้

ด้านรถไฟใต้ดินของนครนิวยอร์คยังต้องปิดทำการไม่มีกำหนด หลังน้ำท่วมในอุโมงค์ และสถานี โดยวันนี้ มีการเผยแพร่ภาพในช่วงที่น้ำไหลเข้าท่วมรางใต้ดิน

พายุแซนดี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตในสหรัฐ 43 คน หลังถล่มประเทศหมู่เกาะในทะเลคาริบเบี้ยนจนมีผู้เสียชีวิต 67 คนไปก่อนหน้านี้

นอกจากลมฝนแล้ว อิทธิพลของพายุแซนดี้ ยังทำให้เกิดหิมะตกหนักในรัฐเวสต์ เวอร์จิเนีย ปริมาณหิมะสะสมสูงถึง 61 เซ็นติเมตร เช่นเดียวกับรัฐโอไฮโอ้ และเพนซิลเวเนีย

วันนี้ชาวนครนิวยอร์คและรัฐต่างๆที่เป็นทางผ่าน และได้รับผลกระทบของพายุ เริ่มออกมาเก็บกวาดสำรวจความเสียหาย ขณะที่ที่ทำการรัฐบาลเริ่มทะยอยเปิดทำการในวันนี้ สเช่นเดียวกับตลาดหลักทรัพย์จะเริ่มการซื้อขายในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นเช่นกัน แต่โรงเรียนยังปิดอยู่

 

 

บริษัทประเมินความเสียหายจากภัยพิบัติ คาดการณ์ว่า พายุสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 2 หมื่น 5 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ

นายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ค พร้อมนายชาร์ลส์ ชุมเมอร์ สมาชิกวุฒิสภารัฐนิวยอร์ค ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่มหานครนิวยอร์ค ทั้งพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม และบ้านเรือนในย่านควีนส์ ที่ถูกเพลิงไหม้เสียหาย 80 -100 หลัง ระหว่างพายุกระหน่ำ โดยมีการประเมินว่านี่เป็นความเสียหายจากพายุครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 52 ปีของนิวยอร์ค

เช่นเดียวกับนายคริส คริสตี้ ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซี ที่เดินทางไปตรวจสภาพความเสียหายของเมืองเบลมาร์ เมืองชายฝั่งทะเลใกล้จุดที่เฮอร์ริเคนแซนดี้พัดขึ้นฝั่ง ซึ่งเสียหายหนักที่สุด พร้อมประกาศจะฟื้นฟูเมืองและพื้นที่ชายหาดขึ้นใหม่ แต่ยอมรับว่าคงจะไม่เหมือนเดิม

และวันนี้ (31ต.ค.55) ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า จะเดินทางไปยังนิวเจอร์ซี เพื่อดูสภาพความเสียหาย ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาประกาศจะร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่นอย่างเต็มที่ ในการฟื้นฟูเมือง