วันนี้ (11 ส.ค.2564) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวกรุงมะนิลาที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการโควิด-19 ทยอยเข้ารับเงินช่วยเหลือจากทางการ ซึ่งความช่วยเหลือจะครอบคลุมประชาชน 10,890,000 คน โดยแต่ละคนจะได้รับเงินคนละ 1,000 เปโซ หรือประมาณ 660 บาท และครอบครัวละไม่เกิน 4,000 เปโซ หรือประมาณ 2,645 บาท
รัฐบาลฟิลิปปินส์กลับมาบังคับใช้มาตรการปิดกรุงมะนิลาอย่างเข้มข้นอีกครั้งตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 20 ส.ค.นี้ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะจากสายพันธุ์เดลตา ซึ่งกำลังเข้าขั้นวิกฤต
โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฟิลิปปินส์ ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศเพิ่มอีกมากกว่า 12,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงที่สุด นับตั้งแต่เดือน เม.ย. ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 154 คน ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ด้านประธานสมาคมโรงพยาบาลฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ในขณะนี้คล้ายคลึงกับช่วงที่ประเทศเผชิญเมื่อช่วงเดือน มี.ค. - เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งโรงพยาบาลในกรุงมะนิลาหลายแห่งดูแลผู้ป่วยโควิด-19 จนเต็มขีดความสามารถแล้ว จนต้องประกาศงดรับผู้ป่วยเพิ่ม
ขณะที่นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลาประกาศระงับการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเวลากลางคืน สำหรับศูนย์ฉีดที่เดิมเปิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งงดการฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ไม่ได้ทำการจองล่วงหน้า หรือวอล์ก-อิน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนวัคซีน
ปัจจุบัน มีชาวฟิลิปปินส์ได้รับวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วมากกว่า 1,500,000 คน โดยในจำนวนนี้ มากกว่า 660,000 คน ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ซึ่งรัฐบาลฟิลิปปินส์ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ประชาชนสูงสุด 70 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้ จากประชากรทั้งหมด 110 ล้านคน
ที่มา : AFP, CNN Philippines, Rappler, Philippine Star, Philippine News Agency
แท็กที่เกี่ยวข้อง: