วันนี้ (12 ส.ค.2564) กรมการแพทย์ ชี้แจงกรณีที่มีการแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์ ให้แก่บุคลากรส่วนกลางที่ปฏิบัติงานส่วนงานสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์นั้น
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังมีความรุนแรง ปัจจุบันพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ขาดแคลนบุคลากรในโรงพยาบาลประกอบกับบุคลากรในโรงพยาบาลบางส่วนมีการติดเชื้อ และบางส่วนทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้ต้องหมุนเวียนบุคลากรจากส่วนกลางไปทำงาน
เพื่อลดความเหนื่อยล้าของบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานต่อเนื่องมาหลายเดือน จึงมีความจำเป็นต้องให้บุคลากรส่วนกลางบางส่วนไปปฏิบัติงานช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการคัดกรองผู้ป่วย การอำนวยความสะดวกงานในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยโควิด-19 การประสานงานการรับและส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 และงานด้านอื่น ๆ ที่จำเป็น
โดยสถานที่ปฏิบัติงานมีจำนวนมาก อาทิ ศูนย์แรกรับและส่งต่อ อาคารนิมิบุตร ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ Hospitel หรือ โรงพยาบาลของกรมบางแห่ง เป็นต้น
ดังนั้น บุคลากรส่วนกลางที่ปฏิบัติงานสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ตามสถานที่ต่าง ๆ ดังกล่าว ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 จากการปฏิบัติงาน โดยบุคลากรส่วนกลางทั้งหมดมีจำนวน 430 คน แต่มีเพียงบุคลากรที่ไปช่วยงานในสถานีที่เสี่ยงดังกล่าว 112 คน เท่านั้น ที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนของไฟเซอร์ เช่นเดียวกับบุคลากรด่านหน้า ตามหลักเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุขทุกประการ ขอยืนยันว่าการฉีดวัคซีนเป็นไปเงื่อนไขความจำเป็นและหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เป็นผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลและการควบคุมป้องกันโรค ซึ่งมีโอกาสและมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อจากการปฏิบัติงานทั้งสิ้น
ดังนั้น หากผู้ปฏิบัติงานได้รับวัคซีนแล้วจะสามารถป้องกันการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 และสามารถเป็นกำลังสำคัญในการดูแลรักษาผู้ป่วยต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง: