เมื่อวันที่ 6 พ.ค.2568 มาร์ค คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา เดินทางเยือนทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการ โดยมีโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้การต้อนรับ ซึ่งถือเป็นการพบกันครั้งแรกผู้นำทั้ง 2 คน นับตั้งแต่คาร์นีย์ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความลงบนทรูธโซเชียล ระบุว่า ตั้งตารอคอยที่จะได้พบกับผู้นำแคนาดา แต่ย้ำว่าเขาไม่คิดว่าสหรัฐฯ ต้องการรถยนต์ พลังงาน หรือไม้ของแคนาดา พร้อมตั้งคำถามถึงการพึ่งพาสหรัฐฯ ของแคนาดา
ระหว่างการพูดคุยของสองผู้นำซึ่งเปิดให้สื่อมวลชนเข้าเก็บภาพ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวแสดงความยินดีกับผู้นำแคนาดาที่ชนะการเลือกตั้ง พร้อมพูดเชิงติดตลกว่าตัวเขาถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้คาร์นีย์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง และคิดว่านี่อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับคาร์นีย์
นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงเรื่องที่จะผนวกรวมให้แคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ แต่ผู้นำแคนาดายืนยันว่า "แคนาดาไม่ได้มีไว้ขาย" เพื่อย้ำว่าแคนาดาจะไม่เป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ
นายกรัฐมนตรีแคนาดา ระบุภายหลังการพบกับผู้นำสหรัฐฯ ว่า ไม่มีการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับเรื่องภาษีทางการค้าระหว่างที่พบกับผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งทั้งตัวเขาและทรัมป์ได้หารือกันอย่างกว้างขวางและสร้างสรรค์ แต่ขณะเดียวกันก็เตือนว่านี่เป็นการเจรจาที่ซับซ้อน
"แคนาดา" ถือเป็นพันธมิตรการค้ารายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐฯ รองจากเม็กซิโก และเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสินค้าของสหรัฐฯ เมื่อปี 2024 โดยมีมูลค่าสินค้าที่ส่งออกระหว่างกันรวมกันกว่า 760,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่แคนาดาเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ 63,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2024
อ่านข่าว
อินเดียเปิดฉากโจมตี 9 จุด ปากีสถานตอบโต้ยิงเครื่องบินตก 2 ลำ
เริ่มประชุมลับ "คอนเคลฟ" 133 คาร์ดินัลร่วมเลือกโป๊ปพระองค์ใหม่