การหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และ นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เป็นไปอย่างเข้มข้น ผู้สมัครนายกเทศมนตรีแต่ละทีม งัดนโยบายขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด หวังโกยคะแนนเสียงช่วงโค้งสุดท้าย นอกจากนี้ ยังมีผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลอิสระ อีก 1 คน ที่ลงสู้ศึกกับทีมใหญ่ หวังจะเข้าไปถ่วงดุลอำนาจ และตรวจสอบการใช้งบประมาณ
การเดินสายแนะนำตัว บวกกับนโยบายที่อาสาจะเข้ามาทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อตรวจสอบการทำงานฝ่ายบริหาร และงบประมาณเทศบาลนครหาดใหญ่ ทำให้การหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายของนายบัณฑิต แก้วประดิษฐ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ หมายเลข 1 ได้รับความสนใจจากประชาชน ในพื้นที่เขต 3 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพราะเป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวที่ลงเลือกตั้งอิสระ
นายบัณฑิต บอกว่า การลงเลือกตั้งอิสระ เพื่อต้องการเข้าไปเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชน และ ต้องการเข้าไปถ่วงดุล การใช้อำนาจฝ่ายบริหาร และตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง และเป็นกระบอกเสียงสะท้อนปัญหา ความเดือดร้อนต่างๆ แทนประชาชน
ส่วนการหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ นายพีรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ กีรติกานต์ หรือ "บ่าวพี" ผู้สมัครน้องใหม่ หมายเลข 3 ที่เสนอตัวเข้ามาชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ชนกับ "พี่หลวงคร - ปลัดแป้น - ผู้การชาติ" ก็ลงพื้นที่หาเสียง ชูจุดแข็งของนโยบาย 5 ด้าน หวังโกยคะแนนเสียงจากประชาชน ในช่วงโค้งสุดท้าย โดยระบุว่า แนวคิดนโยบาย 5 ด้าน ถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างอนาคตของคนหาดใหญ่ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ในเมืองหาดใหญ่
ส่วน "พี่หลวงคร" พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ หมายเลข 1 เจ้าของที่นั่งเดิม ก็นำนโยบาย 9 ด้าน และการเข้ามาแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะการพัฒนาเมือง ให้กลับมารุ่งเรืองด้านการท่องเที่ยว ก็ลงพื้นที่หาเสียงกับประชาชนในช่วงโค้งสุดท้าย พร้อมพกความมั่นใจว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ จะได้รับชัยชนะอีกครั้ง
ด้านคู่แข่งคนสำคัญอย่างนายณรงค์พร ณ พัทลุง หรือ "ปลัดแป้น" ผู้สมัครหมายเลข 2 เจ้าของสโลแกน "แป้นทำทันที" ก็ชูนโยบายหลัก 6 ด้าน ออกหาเสียง โดยเฉพาะการสร้างโรงพยาบาล เทศบาลนครหาดใหญ่ เพื่อการรักษาที่เข้าถึงได้ และการลดพื้นที่ขาวแดง เพิ่มจุดจอดรถให้พอเพียง เพื่อเรียกคะแนนเสียงกับประชาชน
ส่วน "ผู้การชาติ" หรือ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ผู้สมัครนายกเทศมนตรีหมายเลข 4 ก็นำนโยบายหลักลงพื้นที่หาเสียง มีประชาชน และผู้สนับสนุน ให้การตอบรับ ไม่ต่างจากผู้สมัครนายกเทศมนตรีคนอื่นๆ
การเลือกตั้งที่ผ่านมา มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ประมาณ 105,000 คน มีผู้ออกมาใช้สิทธิร้อยละ 65 ในการเลือกตั้ง แต่การขับเคี่ยวที่ดุเดือด คาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิมากขึ้น
อ่านข่าว :
ศึกชิงนายกเทศมนตรีนครเชียงราย "พรรคใหญ่-แชมป์เก่า" กับโจทย์ยากแก้ภัยพิบัติ