วันนี้ (9 พ.ค.2568) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช แจ้งว่า ช้างป่าเพศผู้ วัยประมาณ 50 ปี น้ำหนักกว่า 3.5 ตัน ที่พบว่ามีอาการบาดเจ็บบริเวณขาหลังข้างซ้าย เดินทุลักทุเล บริเวณอ่างเก็บน้ำโจน นอกเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ตายแล้ว หลังทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่พยายามรักษาอาการบาดเจ็บนานกว่า 3 วัน แต่สุดท้ายไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้
นายอนุชาติ อาจหาญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เปิดเผยว่า ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ได้ทุ่มเทสรรพกำลังช่วยเหลือช้างป่าตัวนี้ มีการวางยาสลบเพื่อล้างบาดแผล ให้ยาฆ่าเชื้อ ยาบำรุงและน้ำเกลือ แต่บาดแผลมีความรุนแรงและช้างมีอายุมาก สุขภาพจึงทรุดลงต่อเนื่อง จนกระทั่งตายลงในเช้าวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา
ภาพจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ภาพจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
สัตวแพทย์ผ่าชันสูตรซาก พบร่องรอยบาดแผลคล้ายถูกยิงด้วยกระสุนปืน 5 จุด กระจายอยู่ทั่วร่างกาย ทั้งบริเวณงวง โคนงา ช่องท้องและขาหลังด้านซ้าย โดยใช้เครื่องสแกนโลหะพบสัญญาณโลหะภายในซากช้าง ผ่าเปิดบาดแผลขาหลังที่บวมเป่ง พบหนองขนาดใหญ่ถึง 40 เซนติเมตร ทำให้กระดูกข้อต่อหลุดออกจากกัน เนื้อเยื่อและเส้นเอ็นเน่าเสียหาย
นอกจากนี้ยังพบหัวกระสุนและเศษโลหะรวม 5 ชิ้นฝังอยู่ในตัวช้าง โดยเฉพาะกระสุนขนาด .22 ที่พบใกล้โคนงา ส่วนการตรวจอวัยวะภายในยังพบความผิดปกติที่ไต บ่งชี้ถึงภาวะการติดเชื้อรุนแรง
ภาพจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ภาพจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ทีมสัตวแพทย์สันนิษฐานเบื้องต้นว่า สาเหตุการตายหลักมาจากการติดเชื้ออย่างรุนแรงจากบาดแผลที่ขาหลัง เนื่องจากบริเวณข้อต่อมีรูพรุน ทำให้เชื้อโรคแทรกซึมเข้าสู่ไขกระดูกและลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด ประกอบกับอายุมากและระบบภูมิคุ้มกันเสื่อมถอย ทำให้ช้างไม่สามารถต่อสู้กับการติดเชื้อได้
หลังการชันสูตร เจ้าหน้าที่ได้ฝังกลบซากช้างในพื้นที่เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคสู่สัตว์ป่าอื่นๆ พร้อมแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.อ่าวน้อย เพื่อดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย
อ่านข่าว
เร่งช่วย "ช้างป่ากุยบุรี" ขาหลังซ้ายบวม
ปศุสัตว์ยังหาต้นตอแอนแทรกซ์ หลังไม่พบเชื้อดิน-ทราย 5 ตัวอย่าง
ประมงเชียงราย เผยปลาเป็นตุ่ม พบพยาธิ-แบคทีเรีย คาดทราบผลปลายเดือน พ.ค.นี้