กรณีคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (FATF) จัดให้ไทยอยู่ในบัญชีดำที่เป็นแหล่งฟอกเงินรายใหญ่ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร มีคำเสนอแนะให้รัฐบาลแสดงความชัดเจนในนโยบายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และควรมีการชี้แจงถึงหลักการของรัฐบาลไทยต่อ FATF นอกเหนือจากให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่มีหน้าที่ต้องชี้แจงโดยภารกิจอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ผู้นำฝ่ายค้านยอมรับว่า กรณีดังกล่าวอาจส่งผลต่อการทำธุรกรรมทางการเงินของไทย โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเห็นว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่ซอยสุขุมวิท 71 ก็เป็นส่วนหนึ่งในผลที่จะตามมาจากประเด็นนี้ ดังนั้นรัฐบาลต้องเปิดเผยข้อเท็จจริงให้สาธารณชนรับทราบ เพื่อยับยั้งการตื่นตระหนกและสร้างความเชื่อมั่น รวมถึงความมั่นใจในมาตรการด้านความปลอดภัยของไทย
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ยังได้กล่าวก่อนเดินทางไปเยือนประเทศพม่าว่า ได้นัดหมายไว้ล่วงหน้า เพื่อหารือกับนางออง ซาน ซูจี ในการจะร่วมสนับสนุนเพื่อนบ้านให้เกิดกระบวนการปรองดอง และการเดินหน้าพัฒนาไปร่วมกัน
แท็กที่เกี่ยวข้อง: