“ธนิต” ชี้ ช่วงน้ำท่วมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากกว่าสถานการณ์การเมือง

รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ชี้สถานการณ์การเมืองกระทบเศรษฐกิจน้อยกว่าช่วงน้ำท่วม ห่วงร่างพ.ร.บ.ฟอกเงินเสร็จไม่ทันกำหนดปีหน้า วอนทุกฝ่ายช่วยให้ร่างพ.ร.บ.ฟอกเงินเสร็จทันตามกำหนด

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศขณะนี้ว่าแม้กระทบกับการท่องเที่ยวโดยตรง แต่นักลงทุนก็เข้าใจ เชื่อว่าเมืองไทยมีภูมิคุ้มกันจากเหตุการณ์การเมืองวุ่นวายต่อเนื่อง หากสถานการณ์นิ่งแล้วนักลงทุนจะกลับมาแน่นอน พร้อมระบุช่วงน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ยังกระทบเศรษฐกิจมากกว่า

ส่วนเรื่องที่ประเทศไทยถูกคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (Financial Action Task Force on Money Laundering – FATF) ขึ้นบัญชีดำนั้น นายธนิตได้แสดงความคิดเห็นว่า ยังไม่ถึงกับเป็นบัญชีดำ เรายังอยู่ในขั้นสีเทาเข้มเท่านั้น แต่หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการออกพ.ร.บ.ป้องกันการเงินและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ไทยจะถูกขยับขั้นขึ้นบัญชีดำแน่นอน เป็นกฏหมายสองฉบับที่ต้องเร่งเข้าสภาฯ วอนทุกฝ่ายทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านให้ความร่วมมือให้ผ่านเป็นกฏหมาย เพราะหากไม่ออกกฎหมายภายในเดือนมกราคม 2556 ประเทศไทยก็จะถูกเลื่อนขึ้นบัญชีดำเหมือนประเทศอิหร่าน และเกาหลีเหนือ ซึ่งมีการห้ามทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศ หรือไม่ก็ต้องมีการขอตรวจสอบข้อมูลการนำเข้าและส่งออกมากขึ้น และจะส่งผลกระทบกับการส่งออก การท่องเที่ยว การเกษตร นักลงทุน ตลาดหุ้น หากร่าง พ.ร.บ.ฟอกเงินทั้งสองฉบับ เสร็จไม่ทันตามกำหนด ก็ต้องเป็นหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ธนาคารแห่งประเทศไทยและภาคเอกชน ต้องร่วมกันไปชี้แจงกับ FATF