สหรัฐฯ ประกาศระงับการค้ากับเมียนมา จนกว่าจะมีรัฐบาลประชาธิปไตย

ออกอากาศ30 มี.ค. 64

สหรัฐฯ ประกาศระงับการค้ากับเมียนมา จนกว่าจะมีรัฐบาลประชาธิปไตย

ทวิตเตอร์ Katherine Tai ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ โพสต์ข้อความว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศมาตรการกดดันกองทัพเมียนมาเพิ่มขึ้น "ระงับการทำธุรกิจ การค้าทุกประเภท โดยให้มีผลทันที จนกว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในประชาธิปไตย"

สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) อาศัยอำนาจตามกรอบข้อตกลงว่าด้วยการค้าและการลงทุน ปี 2013 ระงับการค้าและธุรกิจทั้งปวงกับเมียนมา

ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ประณามกองกำลังทหาร ตำรวจเมียนมา ที่ใช้กำลังปราบปรามประชาชนอย่างโหดเหี้ยมทารุณ “การเข่นฆ่าประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบ มีทั้งนักเรียน นักศึกษา คนงาน ผู้นำแรงงาน บุคลากรทางการแพทย์ และเด็ก สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาคมโลก”

Katherine Tai โพสต์ข้อความสนับสนุนประชาชนเมียนมาที่พยายามต่อสู้เพื่อให้การปกครองระบอบประชาธิปไตยกลับคืน ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งกลับคืน ซึ่งเป็นฐานรากสำคัญของการปฏิรูปและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

สหประชาชาติรายงานว่าการปราบปรามประชาชนเมื่อวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม วันกองทัพเมียนมา มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 107 คน ขณะที่ข้อมูลที่รวบรวมโดย Myanmar Now ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 114 คน

กรรมการบริหารกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ UNICEF ระบุว่า มีเด็กเสียชีวิตจากการปราบปรามของทหาร ตำรวจ เมื่อวันเสาร์ อย่างน้อย 10 คน และมีเด็กอายุ 1 ขวบ ถูกกระสุนยางยิงเข้าที่นัยน์ตาขวา

ขณะที่ประชาคมโลกออกแถลงการณ์ การกระทำที่ป่าเถื่อนโหดร้ายของกองทัพเมียนมา และเป็นครั้งแรกที่ผู้นำกองทัพสหรัฐฯ และผู้นำกองทัพอีก 11 ประเทศ ออกแถลงการณ์ร่วมประณามกองทัพเมียนมา พร้อมกับย้ำว่า “ทหารอาชีพมีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองประชาชน มิใช่ทำร้ายประชาชน”

สถานีโทรทัศน์ของกองทัพเมียนมา Myawaddy TV รายงานว่า การใช้กำลังปราบปรามเมื่อวันเสาร์ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องกระทำ เนื่องจากผู้ชุมนุมใช้อาวุธปืนและระเบิด ทำร้ายเจ้าหน้าที่ Myawaddy TV รายงานว่า มีผู้ชุมนุมเสียชีวิต 45 คน

หมายเหตุภาพ Irrawaddy เปลวเพลิงลุกไหม้ที่เมืองดากงใต้ ในมณฑลย่างกุ้ง ทหาร ตำรวจ ลั่นกระสุนและขว้างระเบิดใส่ผู้ชุมนุม ซึ่ง Irrawaddy รายงานว่าบรรยากาศเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ราวกับสนามรบ มีประชาชนเสียชีวิตจากการปราบปราม 4 คน

แท็กที่เกี่ยวข้อง: