ผู้หนีภัยสงครามกะเหรี่ยง อาหารร่อยหรอ ผู้บาดเจ็บหลายคน ติดอยู่ในรัฐกะเหรี่ยง
รายงานจากหลายแหล่งตรงกันว่า การอพยพหนีภัยสงครามการทิ้งระเบิดโจมตีหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสาละวิน ต่อเนื่องตั้งแต่วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม สร้างความหวาดกลัวแก่ชาวกะเหรี่ยง พากันทิ้งบ้านเรือนนับหมื่นคน หนีภัยระเบิด บ้างก็หลบซ่อนตัวในป่า บ้างก็หาก้อนหินใหญ่กำบังกาย บ้างหลบภัยในถ้ำ และประมาณ 3,000 คน ลงเรือข้ามแม่น้ำเข้าหลบภัยในพรมแดนไทย
รายงานจากหลายแหล่งระบุว่า ด้วยความเร่งรีบหนีภัยระเบิด ชาวกะเหรี่ยงจึงไม่มีเสบียงอาหารติดตัวมามากนัก
Naw Then Nay ผู้นำชุมชนกะเหรี่ยง บอกกับ Straits Times ว่า “พวกเราไม่รู้ว่า เครื่องบินทหารเมียนมาจะบินมาทิ้งระเบิดอีกเมื่อไหร่ ก็เลยต้องหนี”
Straits Times รายงานว่า ที่ริมแม่น้ำสาละวินฝั่งประเทศเมียนมา มีชาวกะเหรี่ยงหนีภัยการปราบปรามจากทหารเมียนมา พักพิงชั่วคราวเป็นจำนวนมาก
“พวกเราหาที่พักตามสุมทุมพุ่มไม้ หลบหลังก้อนหินใหญ่ ตอนนี้เรามีเพียงข้าวสาร 8 กระสอบ สำหรับเลี้ยง 2,000 คน”
Naw Then Nay วิงวอนรัฐบาลไทย อนุญาตให้องค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม นำอาหารเข้าไปช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยง
ทางด้านองค์กรสตรีกะเหรี่ยง (Karen Women Organisation) ออกแถลงการณ์ขอรับบริจาคเงินผ่าน Paypal เพื่อจัดหาอาหาร ยารักษาโรค และของใช้จำเป็น เพื่อช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยง
เมื่อวันพุธทางการไทยแถลงยืนยันว่า ไม่มีนโยบายผลักดันผู้หนีภัยสงครามออกจากพรมแดนไทย พร้อมทั้งเผยแพร่ภาพเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ไทยรวมทั้งทหารพราน กำลังให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถูกลำเลียงข้ามแม่น้ำสาละวิน ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลชายแดนในประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 มีนาคม
สำนักข่าวเอเอฟพี สัมภาษณ์นายแพทย์ที่รักษาผู้บาดเจ็บชาวกะเหรี่ยง ชื่อนายแพทย์จักรี (Chakri KomsakormX) บอกว่า ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลจากสะเก็ดระเบิด ราวกับเพิ่งผ่านสมรภูมิสงคราม “หลายคนดูอิดโรย เหมือนไม่ได้กินอาหารมาหลายวัน”
นายแพทย์จักรี บอกว่า เขาได้ข้อมูลจากผู้ได้รับบาดเจ็บว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคนติดอยู่ในฝั่งประเทศเมียนมา เนื่องจากบาดเจ็บสาหัส ลำบากในการเคลื่อนย้าย ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บที่ได้รับการช่วยเหลือเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลชายแดนไทยจำนวนไม่น้อย มีอาการติดเชื้อที่บาดแผล เนื่องจากขาดแคลนยาและเวชภัณฑ์ในการรักษาพยาบาลเบื้องต้น
หมายเหตุภาพเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ไทยและทหารพรานช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บชาวกะเหรี่ยง 7 คน ที่ริมแม่น้ำสาละวิน นำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 มีนาคม
ผู้หนีภัยสงครามกะเหรี่ยง อาหารร่อยหรอ ผู้บาดเจ็บหลายคน ติดอยู่ในรัฐกะเหรี่ยง
รายงานจากหลายแหล่งตรงกันว่า การอพยพหนีภัยสงครามการทิ้งระเบิดโจมตีหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสาละวิน ต่อเนื่องตั้งแต่วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม สร้างความหวาดกลัวแก่ชาวกะเหรี่ยง พากันทิ้งบ้านเรือนนับหมื่นคน หนีภัยระเบิด บ้างก็หลบซ่อนตัวในป่า บ้างก็หาก้อนหินใหญ่กำบังกาย บ้างหลบภัยในถ้ำ และประมาณ 3,000 คน ลงเรือข้ามแม่น้ำเข้าหลบภัยในพรมแดนไทย
รายงานจากหลายแหล่งระบุว่า ด้วยความเร่งรีบหนีภัยระเบิด ชาวกะเหรี่ยงจึงไม่มีเสบียงอาหารติดตัวมามากนัก
Naw Then Nay ผู้นำชุมชนกะเหรี่ยง บอกกับ Straits Times ว่า “พวกเราไม่รู้ว่า เครื่องบินทหารเมียนมาจะบินมาทิ้งระเบิดอีกเมื่อไหร่ ก็เลยต้องหนี”
Straits Times รายงานว่า ที่ริมแม่น้ำสาละวินฝั่งประเทศเมียนมา มีชาวกะเหรี่ยงหนีภัยการปราบปรามจากทหารเมียนมา พักพิงชั่วคราวเป็นจำนวนมาก
“พวกเราหาที่พักตามสุมทุมพุ่มไม้ หลบหลังก้อนหินใหญ่ ตอนนี้เรามีเพียงข้าวสาร 8 กระสอบ สำหรับเลี้ยง 2,000 คน”
Naw Then Nay วิงวอนรัฐบาลไทย อนุญาตให้องค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม นำอาหารเข้าไปช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยง
ทางด้านองค์กรสตรีกะเหรี่ยง (Karen Women Organisation) ออกแถลงการณ์ขอรับบริจาคเงินผ่าน Paypal เพื่อจัดหาอาหาร ยารักษาโรค และของใช้จำเป็น เพื่อช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยง
เมื่อวันพุธทางการไทยแถลงยืนยันว่า ไม่มีนโยบายผลักดันผู้หนีภัยสงครามออกจากพรมแดนไทย พร้อมทั้งเผยแพร่ภาพเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ไทยรวมทั้งทหารพราน กำลังให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถูกลำเลียงข้ามแม่น้ำสาละวิน ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลชายแดนในประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 มีนาคม
สำนักข่าวเอเอฟพี สัมภาษณ์นายแพทย์ที่รักษาผู้บาดเจ็บชาวกะเหรี่ยง ชื่อนายแพทย์จักรี (Chakri KomsakormX) บอกว่า ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลจากสะเก็ดระเบิด ราวกับเพิ่งผ่านสมรภูมิสงคราม “หลายคนดูอิดโรย เหมือนไม่ได้กินอาหารมาหลายวัน”
นายแพทย์จักรี บอกว่า เขาได้ข้อมูลจากผู้ได้รับบาดเจ็บว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคนติดอยู่ในฝั่งประเทศเมียนมา เนื่องจากบาดเจ็บสาหัส ลำบากในการเคลื่อนย้าย ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บที่ได้รับการช่วยเหลือเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลชายแดนไทยจำนวนไม่น้อย มีอาการติดเชื้อที่บาดแผล เนื่องจากขาดแคลนยาและเวชภัณฑ์ในการรักษาพยาบาลเบื้องต้น
หมายเหตุภาพเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ไทยและทหารพรานช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บชาวกะเหรี่ยง 7 คน ที่ริมแม่น้ำสาละวิน นำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 มีนาคม