UN เรียกร้องให้เพื่อนบ้านเมียนมา ต้อนรับ คุ้มครองผู้หนีภัยจากเมียนมา
สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกร้องประเทศในภูมิภาคปกป้องผู้หนีภัยความรุนแรงและการปราบปรามจากประเทศเมียนมา รวมทั้งปกป้องผู้ลี้ภัยและผู้หลบหนีเข้าเมืองที่ไม่มีเอกสารถูกต้อง ไม่เร่งรีบส่งตัวคนเหล่านี้ลับเมียนมา ในช่วงที่สถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมา เลวร้ายลงทุกวัน
นับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อการรัฐประหาร มีผู้ชุมนุมถูกทหารตำรวจเข่นฆ่าไปแล้วอย่างน้อย 510 คน มีประชาชนถูกจับกุมคุมขังกว่า 2,600 คน ในจำนวนนี้มีหลายคนถูกบังคับให้สูญหาย มีการใช้กำลังบุกเข้าจับกุมประชาชนตามบ้านเรือนในยามวิกาล การจับกุมหมู่ และการปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนรายวัน กองกำลังรัฐบาลทหารเมียนมาใช้อาวุธสงครามร้ายแรง และสไนเปอร์สังหารประชาชนจำนวนมาก
เกิดการสู้รบรอบใหม่ระหว่างกองกำลังรัฐบาลทหารเมียนมากับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ รวมทั้งการทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศประชาชนในรัฐกะเหรี่ยง
สถานการณ์รุนแรงในเมียนมาส่งผลให้ชาวเมียนมาและชาติพันธุ์ จำนวนหนึ่งพยายามหนีภัยข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านซึ่ง UNHRC ได้รับรายงานว่า ผู้หนีภัยจำนวนหนึ่งถูกผลักดันให้เดินทางกลับเมียนมา
“ไม่ควรมีผู้ใดที่อยู่ภาวะสุ่มเสี่ยงต่อชีวิตถูกผลักดันให้เดินทางกลับเมียนมา ทั้งๆ ที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตและถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน” ซินเธีย เวลิโก ผู้อำนวยการ UNHRC ประจำภูมิภาคอาเซียน กล่าว
เวลิโก กล่าวว่า ทุกประเทศมีข้อผูกพันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วย ผู้ลี้ภัยและกฎหมายสิทธิมนุษยชน “UNHRC ขอเรียกร้องให้ทุกประเทศ ให้การปกป้องผู้หนีภัยที่ต้องการสถานะผู้ลี้ภัย ตามสิทธิพึงมีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ”
UNHRC แถลงว่า ประเทศในภูมิภาคล้วนแล้วแต่มีแรงงานเมียนมาทำงานอยู่มากมาย ชาวเมียนมากลุ่มนี้อาจมีปัญหาพาสปอร์ตหรือวีซ่าหมดอายุ แต่ไม่กล้าเดินทางกลับไปทำเอกสารให้ถูกต้องที่เมียนมาในเวลานี้ ดังนั้นประเทศในภูมิภาคควรใช้มาตรการผ่อนปรนที่สร้างสรรค์ เช่นที่เคยผ่อนปรนในช่วงที่เผชิญปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
แถลงการณ์ของ UNHRC แสดงความกังวลต่อปัญหาผู้อพยพโรฮิงญาทางทะเลซึ่ง UNHRC ระบุว่าได้รับรายงานว่ามีเรือผู้อพยพอย่างน้อยหนึ่งลำ ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางทะเลอันดามัน เนื่องจากไม่มีประเทศใดอนุญาตให้ขึ้นฝั่ง UNHRC ขอร้องให้การช่วยเหลือผู้อพยพที่อ่อนแอเหล่านี้ได้ขึ้นฝั่งโดยปลอดภัย
“แรงงานอพยพชาวเมียนมาสร้างประโยชน์ให้กับประเทศในภูมิภาคมากมาย ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ควรยืนเคียงข้างพวกเขา UNHRC ขอเรียกร้องให้ทุกประเทศในภูมิภาคให้การดูแลแรงงานเมียนมาที่เอกสารไม่ถูกต้องให้สามารถพำนักและทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมาย ในช่วงเวลาที่สถานการณ์ในเมียนมาไม่ปรกติ ไม่ปลอดภัย”
หมายเหตุภาพ ผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง แม่กับทารกน้อยต้องอพยพหนีภัยโดยที่แทบไม่มีอะไรติดตัว ต้องใช้โสร่งของพ่อ ห่อหุ้มร่างกายของทารกน้อยให้อบอุ่น
UN เรียกร้องให้เพื่อนบ้านเมียนมา ต้อนรับ คุ้มครองผู้หนีภัยจากเมียนมา
สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกร้องประเทศในภูมิภาคปกป้องผู้หนีภัยความรุนแรงและการปราบปรามจากประเทศเมียนมา รวมทั้งปกป้องผู้ลี้ภัยและผู้หลบหนีเข้าเมืองที่ไม่มีเอกสารถูกต้อง ไม่เร่งรีบส่งตัวคนเหล่านี้ลับเมียนมา ในช่วงที่สถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมา เลวร้ายลงทุกวัน
นับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อการรัฐประหาร มีผู้ชุมนุมถูกทหารตำรวจเข่นฆ่าไปแล้วอย่างน้อย 510 คน มีประชาชนถูกจับกุมคุมขังกว่า 2,600 คน ในจำนวนนี้มีหลายคนถูกบังคับให้สูญหาย มีการใช้กำลังบุกเข้าจับกุมประชาชนตามบ้านเรือนในยามวิกาล การจับกุมหมู่ และการปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนรายวัน กองกำลังรัฐบาลทหารเมียนมาใช้อาวุธสงครามร้ายแรง และสไนเปอร์สังหารประชาชนจำนวนมาก
เกิดการสู้รบรอบใหม่ระหว่างกองกำลังรัฐบาลทหารเมียนมากับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ รวมทั้งการทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศประชาชนในรัฐกะเหรี่ยง
สถานการณ์รุนแรงในเมียนมาส่งผลให้ชาวเมียนมาและชาติพันธุ์ จำนวนหนึ่งพยายามหนีภัยข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านซึ่ง UNHRC ได้รับรายงานว่า ผู้หนีภัยจำนวนหนึ่งถูกผลักดันให้เดินทางกลับเมียนมา
“ไม่ควรมีผู้ใดที่อยู่ภาวะสุ่มเสี่ยงต่อชีวิตถูกผลักดันให้เดินทางกลับเมียนมา ทั้งๆ ที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตและถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน” ซินเธีย เวลิโก ผู้อำนวยการ UNHRC ประจำภูมิภาคอาเซียน กล่าว
เวลิโก กล่าวว่า ทุกประเทศมีข้อผูกพันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วย ผู้ลี้ภัยและกฎหมายสิทธิมนุษยชน “UNHRC ขอเรียกร้องให้ทุกประเทศ ให้การปกป้องผู้หนีภัยที่ต้องการสถานะผู้ลี้ภัย ตามสิทธิพึงมีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ”
UNHRC แถลงว่า ประเทศในภูมิภาคล้วนแล้วแต่มีแรงงานเมียนมาทำงานอยู่มากมาย ชาวเมียนมากลุ่มนี้อาจมีปัญหาพาสปอร์ตหรือวีซ่าหมดอายุ แต่ไม่กล้าเดินทางกลับไปทำเอกสารให้ถูกต้องที่เมียนมาในเวลานี้ ดังนั้นประเทศในภูมิภาคควรใช้มาตรการผ่อนปรนที่สร้างสรรค์ เช่นที่เคยผ่อนปรนในช่วงที่เผชิญปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
แถลงการณ์ของ UNHRC แสดงความกังวลต่อปัญหาผู้อพยพโรฮิงญาทางทะเลซึ่ง UNHRC ระบุว่าได้รับรายงานว่ามีเรือผู้อพยพอย่างน้อยหนึ่งลำ ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางทะเลอันดามัน เนื่องจากไม่มีประเทศใดอนุญาตให้ขึ้นฝั่ง UNHRC ขอร้องให้การช่วยเหลือผู้อพยพที่อ่อนแอเหล่านี้ได้ขึ้นฝั่งโดยปลอดภัย
“แรงงานอพยพชาวเมียนมาสร้างประโยชน์ให้กับประเทศในภูมิภาคมากมาย ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ควรยืนเคียงข้างพวกเขา UNHRC ขอเรียกร้องให้ทุกประเทศในภูมิภาคให้การดูแลแรงงานเมียนมาที่เอกสารไม่ถูกต้องให้สามารถพำนักและทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมาย ในช่วงเวลาที่สถานการณ์ในเมียนมาไม่ปรกติ ไม่ปลอดภัย”
หมายเหตุภาพ ผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง แม่กับทารกน้อยต้องอพยพหนีภัยโดยที่แทบไม่มีอะไรติดตัว ต้องใช้โสร่งของพ่อ ห่อหุ้มร่างกายของทารกน้อยให้อบอุ่น
00:00
00:00