ทหารเมียนมาอยากหนีทัพ แต่ไม่กล้าเพราะห่วงครอบครัว
Myanmar รายงานว่าได้สัมภาษณ์พูดคุยกับทหารเมียนมาที่หนีทัพ เข้าร่วมเคลื่อนไหวเพื่อฟื้นระบอบประชาธิปไตยกับขบวนการอารยะขัดขืน และที่หนีไปหลบภัยกองกำลังชาติพันธุ์ เปิดเผยว่า มีทหารในกองทัพที่ไม่เต็มใจปราบปรามประชาชน อยากหนีจากกองทัพ แต่ไม่กล้าเพราะเป็นห่วงสวัสดิภาพความปลอดภัยของครอบครัว
เมื่อเดือนมีนาคม ทหาร 4 นาย นำโดยทหารยศร้อยเอกได้หนีกองทัพเข้าร่วมเคลื่อนไหวกับ CDM ทหารกลุ่มนี้สังกัดกองพลทหารราบ ที่ 77 หน่วยทหารที่รับผิดชอบการปราบปรามประชาชนในนครย่างกุ้ง
ร้อยเอกลิน เต็ท อ่อง (Lin Htet Aung) บอกว่า ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ทหารและครอบครัวที่พักอาศัยอยู่ในค่ายทหารจะถูกเข้มงวดกว่าปกติ ดังนั้นลูกเมียของทหารเหล่านี้จึงอยู่ในสภาพเสมือนตัวประกัน หากพวกเขาหนีทัพ ลูกเมียที่อยู่ในค่ายทหารจะตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นหากจะหนีกองทัพพวกเขาจึงต้องหาลูกเมียหนีไปพร้อมกัน
ทหารเมียนมาจำนวนไม่น้อยตระหนักดีว่า การจับกุม การซ้อมทรมาน และสังหารประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบ เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง แต่พวกเขาก็ต้องทำตามคำสั่งเพราะความห่วงในอนาคตของครอบครัว
ภรรยาของทหารคนหนึ่งบอก Myanmar Now ว่าเธอไม่ได้เจอหน้าสามีเป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้ว เพราะครอบครัวเธอไม่ได้พักในค่ายทหาร แต่สามีของเธอได้รับคำสั่งให้รอรับคำสั่งในค่ายทหาร และต้องรายงานตัววันละ 2 ครั้ง คือกลางวันและกลางคืน ซึ่งมาตรการนี้เข้มงวดภายหลังมีทหารหนีทัพ
เธอบอกว่าสามีเธอไม่อยากรับราชการทหารตั้งแต่ก่อนการรัฐประหาร แต่ไม่กล้าเพราะห่วงครอบครัว
อย่างไรก็ตาม Myanmar Now รายงานมีทหารอีกจำนวนไม่น้อยที่เชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชาโดยไม่มีคำถาม ทหารพวกนี้เข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต โลกและข่าวสารที่พวกเขาเข้าถึงมีแต่เพียง เมียวดีทีวี และเอ็มอาร์ทีวี สถานีโทรทัศน์ของทหารและรัฐบาล และข่าวสารที่รายงานโดยสถานีโทรทัศน์ทั้งสองแห่งนี้คือ ความจริง
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพลเอกอาวุโสซอ วิน ผู้นำหมายเลขสองของเมียนมา เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนฝึกหัดทหารแห่งหนึ่งที่เมืองยะแม่ติ้ง (Yamethin) ในมณฑลทวาย ซึ่งเขาได้กล่าวเตือนทหารและครอบครัวให้อยู่ในระเบียบวินัย
"ทหารและครอบครัวควรจะรู้ว่า ที่ไหนควรเดินทางไป ใครที่ควรพูดคุยมีความสัมพันธ์ และควรรู้ว่าเรื่องใดควรพูด เรื่องใดไม่ควรพูด"
ผู้นำหมายเลขสอง บอกทหารที่อยู่ในที่ประชุมว่า "อย่าไปเชื่อข่าวที่รายงานว่า กองทัพเชื้อเชิญซีเอ็นเอ็นเข้ามาทำข่าวในเมียนมา เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาคมโลกยอมรับรัฐบาลทหารเมียนมา"
"ระมัดระวังการโฆษณาชวนเชื่อบนสื่อสังคมออนไลน์ และขอให้พวกท่านและครอบครัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับทัตมาดอว์ (กองทัพ)" พลเอกอาวุโสซอ วิน กล่าว
หมายเหตุภาพจาก Office of the Commader-in-Chief of the Defence Service ; พลเอกอาวุโสซอ วิน เยี่ยมเยียนทหารที่ค่ายทหารเมืองยะแม่ติ้ง มณฑลมัณฑะเลย์ ช่วงต้นเดือนเมษายน
ทหารเมียนมาอยากหนีทัพ แต่ไม่กล้าเพราะห่วงครอบครัว
Myanmar รายงานว่าได้สัมภาษณ์พูดคุยกับทหารเมียนมาที่หนีทัพ เข้าร่วมเคลื่อนไหวเพื่อฟื้นระบอบประชาธิปไตยกับขบวนการอารยะขัดขืน และที่หนีไปหลบภัยกองกำลังชาติพันธุ์ เปิดเผยว่า มีทหารในกองทัพที่ไม่เต็มใจปราบปรามประชาชน อยากหนีจากกองทัพ แต่ไม่กล้าเพราะเป็นห่วงสวัสดิภาพความปลอดภัยของครอบครัว
เมื่อเดือนมีนาคม ทหาร 4 นาย นำโดยทหารยศร้อยเอกได้หนีกองทัพเข้าร่วมเคลื่อนไหวกับ CDM ทหารกลุ่มนี้สังกัดกองพลทหารราบ ที่ 77 หน่วยทหารที่รับผิดชอบการปราบปรามประชาชนในนครย่างกุ้ง
ร้อยเอกลิน เต็ท อ่อง (Lin Htet Aung) บอกว่า ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ทหารและครอบครัวที่พักอาศัยอยู่ในค่ายทหารจะถูกเข้มงวดกว่าปกติ ดังนั้นลูกเมียของทหารเหล่านี้จึงอยู่ในสภาพเสมือนตัวประกัน หากพวกเขาหนีทัพ ลูกเมียที่อยู่ในค่ายทหารจะตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นหากจะหนีกองทัพพวกเขาจึงต้องหาลูกเมียหนีไปพร้อมกัน
ทหารเมียนมาจำนวนไม่น้อยตระหนักดีว่า การจับกุม การซ้อมทรมาน และสังหารประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบ เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง แต่พวกเขาก็ต้องทำตามคำสั่งเพราะความห่วงในอนาคตของครอบครัว
ภรรยาของทหารคนหนึ่งบอก Myanmar Now ว่าเธอไม่ได้เจอหน้าสามีเป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้ว เพราะครอบครัวเธอไม่ได้พักในค่ายทหาร แต่สามีของเธอได้รับคำสั่งให้รอรับคำสั่งในค่ายทหาร และต้องรายงานตัววันละ 2 ครั้ง คือกลางวันและกลางคืน ซึ่งมาตรการนี้เข้มงวดภายหลังมีทหารหนีทัพ
เธอบอกว่าสามีเธอไม่อยากรับราชการทหารตั้งแต่ก่อนการรัฐประหาร แต่ไม่กล้าเพราะห่วงครอบครัว
อย่างไรก็ตาม Myanmar Now รายงานมีทหารอีกจำนวนไม่น้อยที่เชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชาโดยไม่มีคำถาม ทหารพวกนี้เข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต โลกและข่าวสารที่พวกเขาเข้าถึงมีแต่เพียง เมียวดีทีวี และเอ็มอาร์ทีวี สถานีโทรทัศน์ของทหารและรัฐบาล และข่าวสารที่รายงานโดยสถานีโทรทัศน์ทั้งสองแห่งนี้คือ ความจริง
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพลเอกอาวุโสซอ วิน ผู้นำหมายเลขสองของเมียนมา เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนฝึกหัดทหารแห่งหนึ่งที่เมืองยะแม่ติ้ง (Yamethin) ในมณฑลทวาย ซึ่งเขาได้กล่าวเตือนทหารและครอบครัวให้อยู่ในระเบียบวินัย
"ทหารและครอบครัวควรจะรู้ว่า ที่ไหนควรเดินทางไป ใครที่ควรพูดคุยมีความสัมพันธ์ และควรรู้ว่าเรื่องใดควรพูด เรื่องใดไม่ควรพูด"
ผู้นำหมายเลขสอง บอกทหารที่อยู่ในที่ประชุมว่า "อย่าไปเชื่อข่าวที่รายงานว่า กองทัพเชื้อเชิญซีเอ็นเอ็นเข้ามาทำข่าวในเมียนมา เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาคมโลกยอมรับรัฐบาลทหารเมียนมา"
"ระมัดระวังการโฆษณาชวนเชื่อบนสื่อสังคมออนไลน์ และขอให้พวกท่านและครอบครัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับทัตมาดอว์ (กองทัพ)" พลเอกอาวุโสซอ วิน กล่าว
หมายเหตุภาพจาก Office of the Commader-in-Chief of the Defence Service ; พลเอกอาวุโสซอ วิน เยี่ยมเยียนทหารที่ค่ายทหารเมืองยะแม่ติ้ง มณฑลมัณฑะเลย์ ช่วงต้นเดือนเมษายน