พบสัญญาณคลื่นแม่เหล็กใต้ทะเลลึก 100 ม. อาจเป็นเรือดำน้ำอินโดนีเซีย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ทีมติดตามค้นหาเรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ที่ขาดการติดต่อระหว่างฝึกซ้อมยิงตอร์ปิโด ในทะเลใกล้เกาะบาหลี มีความคืบหน้าในเช้าวันศุกร์ที่ 23 เมษายน พบสัญญาณคลื่นแม่เหล็กใต้ท้องทะเลในระดับความลึกประมาณ 50 ถึง 100 เมตร
พลเรือเอกยูโด มาร์โกโน่ เสนาธิการทหารเรืออินโดนีเซียแถลงว่า ทีมติดตามค้นหายังคงปฏิบัติงานอยู่ในทะเลบริเวณจุดที่พบคราบน้ำมันห่างจากเกาะบาหลีทางทิศเหนือประมาณ 95 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่เรือดำน้ำ KRI เริ่มดำดิ่งลงใต้ทะเล
“ทีมค้นหาพบสัญญาณคลื่นแม่เหล็กใต้ท้องทะเลในระดับความลึก 50 ถึง 100 เมตร แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นคลื่นแม่เหล็กจากวัตถุประเภทใด ซึ่งพวกเราหวังว่า เป็นเรือดำน้ำ KRI” เสนาธิการทหารเรือ กล่าว
พลเรือเอกยูโด แถลงว่า คราบน้ำมันที่พบในท้องทะเลก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่า มาจากไหน หากมาจากเรือดำน้ำก็มีสมมติฐานสองประการ คือ อาจเกิดจากการรั่วซึมของถังน้ำมันดีเซลของเรือดำน้ำ หรือ อาจเกิดจากการความตั้งใจของลูกเรือที่ระบายน้ำมันออกจากเรือดำน้ำเพื่อลดน้ำหนักทำให้เรือดำน้ำเบาลง สามารถลอยตัวขึ้นเหนือพื้นน้ำได้
สาเหตุที่เรือดำน้ำไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร มีเพียงข้อสันนิษฐานของกองทัพเรืออินโดนีเซียที่คาดว่า อาจเกิดจากระบบไฟฟ้าขัดข้องส่งผลให้การควบคุมสั่งการระบบปฏิบัติการฉุกเฉินไม่สามารถทำงานได้ ทำให้ไม่สามารถควบคุมให้เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ลอยตัวขึ้นเหนือผืนน้ำ
ขณะนี้หลายชาติส่งบุคลากรและอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการค้นหาและช่วยชีวิตลูกเรือ 53 คนบนเรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 แข่งกับเวลาเนื่องจากออกซิเจนบนเรือดำน้ำมีพอใช้งานได้ถึง 03.00 น. วันเสาร์ที่ 24 เมษายน เท่านั้น
KRI Nagggala 402 เป็นเรือดำน้ำขนาด 1,300 ตัน เป็นแบบ diesel-electric track ผลิตในประเทศเยอรมนี สร้างในปี 1978 และเริ่มประจำการในกองทัพเรืออินโดนีเซียตั้งแต่ปี 1981 จนถึงปัจจุบันใช้งานมาแล้ว 40 ปี ผ่านการปรับปรุงมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกที่เยอรมนีในปี 1989 และครั้งล่าสุดที่เกาหลีใต้เมื่อปี 2012
พบสัญญาณคลื่นแม่เหล็กใต้ทะเลลึก 100 ม. อาจเป็นเรือดำน้ำอินโดนีเซีย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ทีมติดตามค้นหาเรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ที่ขาดการติดต่อระหว่างฝึกซ้อมยิงตอร์ปิโด ในทะเลใกล้เกาะบาหลี มีความคืบหน้าในเช้าวันศุกร์ที่ 23 เมษายน พบสัญญาณคลื่นแม่เหล็กใต้ท้องทะเลในระดับความลึกประมาณ 50 ถึง 100 เมตร
พลเรือเอกยูโด มาร์โกโน่ เสนาธิการทหารเรืออินโดนีเซียแถลงว่า ทีมติดตามค้นหายังคงปฏิบัติงานอยู่ในทะเลบริเวณจุดที่พบคราบน้ำมันห่างจากเกาะบาหลีทางทิศเหนือประมาณ 95 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่เรือดำน้ำ KRI เริ่มดำดิ่งลงใต้ทะเล
“ทีมค้นหาพบสัญญาณคลื่นแม่เหล็กใต้ท้องทะเลในระดับความลึก 50 ถึง 100 เมตร แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นคลื่นแม่เหล็กจากวัตถุประเภทใด ซึ่งพวกเราหวังว่า เป็นเรือดำน้ำ KRI” เสนาธิการทหารเรือ กล่าว
พลเรือเอกยูโด แถลงว่า คราบน้ำมันที่พบในท้องทะเลก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่า มาจากไหน หากมาจากเรือดำน้ำก็มีสมมติฐานสองประการ คือ อาจเกิดจากการรั่วซึมของถังน้ำมันดีเซลของเรือดำน้ำ หรือ อาจเกิดจากการความตั้งใจของลูกเรือที่ระบายน้ำมันออกจากเรือดำน้ำเพื่อลดน้ำหนักทำให้เรือดำน้ำเบาลง สามารถลอยตัวขึ้นเหนือพื้นน้ำได้
สาเหตุที่เรือดำน้ำไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร มีเพียงข้อสันนิษฐานของกองทัพเรืออินโดนีเซียที่คาดว่า อาจเกิดจากระบบไฟฟ้าขัดข้องส่งผลให้การควบคุมสั่งการระบบปฏิบัติการฉุกเฉินไม่สามารถทำงานได้ ทำให้ไม่สามารถควบคุมให้เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ลอยตัวขึ้นเหนือผืนน้ำ
ขณะนี้หลายชาติส่งบุคลากรและอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการค้นหาและช่วยชีวิตลูกเรือ 53 คนบนเรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 แข่งกับเวลาเนื่องจากออกซิเจนบนเรือดำน้ำมีพอใช้งานได้ถึง 03.00 น. วันเสาร์ที่ 24 เมษายน เท่านั้น
KRI Nagggala 402 เป็นเรือดำน้ำขนาด 1,300 ตัน เป็นแบบ diesel-electric track ผลิตในประเทศเยอรมนี สร้างในปี 1978 และเริ่มประจำการในกองทัพเรืออินโดนีเซียตั้งแต่ปี 1981 จนถึงปัจจุบันใช้งานมาแล้ว 40 ปี ผ่านการปรับปรุงมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกที่เยอรมนีในปี 1989 และครั้งล่าสุดที่เกาหลีใต้เมื่อปี 2012