ทหารเมียนมาอยู่ในโลกของตัวเอง ถูกล้างสมองให้เห็นประชาชนเป็นศัตรู
Hannah Beech ผู้สื่อข่าว New York Times สัมภาษณ์ทหาร 4 คนในกองทัพเมียนมา หรือ Tatmadaw เพื่อค้นหาคำตอบว่าพวกเขามีโลกทัศน์ และชีวทัศน์ อย่างไร? ทำไมพวกเขาลั่นกระสุนยิงเพื่อนร่วมชาติได้ลงคอ
ทหารสองคนที่ให้สัมภาษณ์ NYT ตอนนี้อยู่ระหว่างหนีราชการ ส่วนอีกสองยังอยู่ในกองทัพ จึงต้องปกปิดชื่อจริงเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองเดือดร้อน พวกเขาพูดตรงกันว่า ตั้งแต่เริ่มรับราชการในกองทัพ พวกเขาได้รับการปลูกฝังให้ทำหน้าที่ปกป้องชาติและศาสนา (พุทธ)
พวกเขามีโลกใบเฉพาะ Tatmadaw เป็นสังคมอภิสิทธิ์ชน เป็นรัฐซ้อนรัฐ เป็นสังคมของทหาร ที่มีวิถีชีวิต การทำงานและสังคม ที่แยกออกมาจากสังคมเมียนมา พวกเขาถูกปลูกฝังให้มีทัศนคติว่า พวกเขามีสถานะทางสังคมที่สูงส่งกว่าประชาชนทั่วไป
สังคมทหารเมียนมามีการบังคับบัญชาและติดตามสอดส่องอย่างเข้มงวดจากผู้บังคับบัญชาทั้งบนโลกที่พวกเขามีชีวิตอยู่ และสังคมบนโลกเสมือน "เฟซบุ๊ก"
สังคมที่มีการปลุกระดมล้างสมองให้มีความเชื่อว่า ศัตรูของกองทัพมีอยู่ทุกหนแห่ง ไม่เว้นแม้แต่ตามท้องถนนในเมืองใหญ่
โลกที่ถูกสร้างครอบกองทัพเมียนมา ทำให้พวกเขามีโลกทัศน์ที่คับแคบ รับคำสั่งเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าได้โดยไม่มีการตั้งคำถาม
"ทหารในกองทัพเมียนมาถูกล้างสมอง" นายทหารยศร้อยเอก ที่จบการศึกษาจากสถาบันการศึกษาของนายทหารเมียนมา บอก NYT
Tatmadaw มีประวัติศาสตร์การทำสู้รบต่อเนื่องนับตั้งแต่ประกาศเอกราชจากอังกฤษ ในปี 1948 สู้รบกับกองกำลังคอมมิวนิสต์ กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ และขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
กองทัพเมียนมา เสมือนเป็นกองทัพของชาวพุทธชาติพันธุ์พม่า (Buddhist Bamar)
"ทหารเมียนมามองผู้ชุมนุมเสมือนเป็นอาชญากร เนื่องเพราะในสังคมทหารมีการปลูกฝังว่า คนที่ไม่ยอมรับคำสั่งหรือมีท่าทีต่อต้านทหาร คือ อาชญากร" ร้อยเอก Tun Myat Aung นายทหารที่หนีราชการเนื่องจากทำใจรับคำสั่งยิงประชาชนไม่ได้ บอก NYT
"ทหารในกองทัพเมียนมาไม่เคยได้ลิ้มรสประชาธิปไตย พวกเขาจึงเหมือนใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความมืดมิด"
ทหารเมียนมาอยู่ในโลกของตัวเอง ถูกล้างสมองให้เห็นประชาชนเป็นศัตรู
Hannah Beech ผู้สื่อข่าว New York Times สัมภาษณ์ทหาร 4 คนในกองทัพเมียนมา หรือ Tatmadaw เพื่อค้นหาคำตอบว่าพวกเขามีโลกทัศน์ และชีวทัศน์ อย่างไร? ทำไมพวกเขาลั่นกระสุนยิงเพื่อนร่วมชาติได้ลงคอ
ทหารสองคนที่ให้สัมภาษณ์ NYT ตอนนี้อยู่ระหว่างหนีราชการ ส่วนอีกสองยังอยู่ในกองทัพ จึงต้องปกปิดชื่อจริงเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองเดือดร้อน พวกเขาพูดตรงกันว่า ตั้งแต่เริ่มรับราชการในกองทัพ พวกเขาได้รับการปลูกฝังให้ทำหน้าที่ปกป้องชาติและศาสนา (พุทธ)
พวกเขามีโลกใบเฉพาะ Tatmadaw เป็นสังคมอภิสิทธิ์ชน เป็นรัฐซ้อนรัฐ เป็นสังคมของทหาร ที่มีวิถีชีวิต การทำงานและสังคม ที่แยกออกมาจากสังคมเมียนมา พวกเขาถูกปลูกฝังให้มีทัศนคติว่า พวกเขามีสถานะทางสังคมที่สูงส่งกว่าประชาชนทั่วไป
สังคมทหารเมียนมามีการบังคับบัญชาและติดตามสอดส่องอย่างเข้มงวดจากผู้บังคับบัญชาทั้งบนโลกที่พวกเขามีชีวิตอยู่ และสังคมบนโลกเสมือน "เฟซบุ๊ก"
สังคมที่มีการปลุกระดมล้างสมองให้มีความเชื่อว่า ศัตรูของกองทัพมีอยู่ทุกหนแห่ง ไม่เว้นแม้แต่ตามท้องถนนในเมืองใหญ่
โลกที่ถูกสร้างครอบกองทัพเมียนมา ทำให้พวกเขามีโลกทัศน์ที่คับแคบ รับคำสั่งเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าได้โดยไม่มีการตั้งคำถาม
"ทหารในกองทัพเมียนมาถูกล้างสมอง" นายทหารยศร้อยเอก ที่จบการศึกษาจากสถาบันการศึกษาของนายทหารเมียนมา บอก NYT
Tatmadaw มีประวัติศาสตร์การทำสู้รบต่อเนื่องนับตั้งแต่ประกาศเอกราชจากอังกฤษ ในปี 1948 สู้รบกับกองกำลังคอมมิวนิสต์ กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ และขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
กองทัพเมียนมา เสมือนเป็นกองทัพของชาวพุทธชาติพันธุ์พม่า (Buddhist Bamar)
"ทหารเมียนมามองผู้ชุมนุมเสมือนเป็นอาชญากร เนื่องเพราะในสังคมทหารมีการปลูกฝังว่า คนที่ไม่ยอมรับคำสั่งหรือมีท่าทีต่อต้านทหาร คือ อาชญากร" ร้อยเอก Tun Myat Aung นายทหารที่หนีราชการเนื่องจากทำใจรับคำสั่งยิงประชาชนไม่ได้ บอก NYT
"ทหารในกองทัพเมียนมาไม่เคยได้ลิ้มรสประชาธิปไตย พวกเขาจึงเหมือนใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความมืดมิด"