หลังมีคำสั่ง "ให้ออกจากราชการไว้ก่อน" พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล ร้องเอาผิดนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ พร้อม ๆ กับข้อสังเกตว่า มีขบวนการกลั่นแกล้งไม่ให้ไปถึงตำแหน่ง ผบ.ตร. ประเด็นหลักที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยื่นเรื่องถึงประธาน ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบเอาผิด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ตั้งแต่การแต่งตั้ง พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จนถึงการออกคำสั่งให้ออกจากราชการ โดยรักษาราชการแทน ผบ.ตร. รวมถึงยื่นตรวจสอบ คณะพนักงานสอบสวนชุดทำคดีเว็บพนันว่า มีอำนาจ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่
วันนี้ "บิ๊กโจ๊ก" หรือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ออกมาร้องเอาผิดนายกรัฐมนตรี พร้อมผู้เกี่ยวข้อง โดยกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าขั้นตอนการตรวจสอบคดีของตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม และมีขบวนการกลั่นแกล้งเพื่อสกัดไม่ให้ไปถึงตำแหน่ง ผบ.ตร.
แม้จะยังมีลู่ทางอุทธรณ์คำสั่ง "ให้ออกจากราชการไว้ก่อน" ในช่วงเวลาจากนี้ อีก 90 วัน แต่เส้นทางของ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ไม่น่าจะสดใส เพราะนอกจากต้องหาทางชี้แจงตัวเอง ยังต้องต่อสู้คดีอาญา ขณะที่นักวิชาการ และอดีตตำรวจ มองอนาคตของ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ว่าจะยังมีโอกาสลุ้นนั่งแคนดิเดต ผบ.ตร. อีกหรือไม่ ซึ่งก็คาดว่า น่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะต้องใช้เวลาในการต่อสู้คดีหลายปี
การบริหารจัดการเงินในวัด เป็นช่องว่างให้เกิดการฉวยโอกาส นำเงินที่ได้มาโดยผิดกฎหมายไปบริจาค เช่น ตำรวจพบเส้นทางการเงินจากบัญชีม้า เครือข่ายพนันออนไลน์ โอนไปทำบุญให้วัด จ.พระนครศรีอยุธยา ในชื่อของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นคำถามตามมาว่า วัดเป็นสถานที่ ฟอกเงินหรือไม่ ? เพราะเงินทำบุญไม่สามารถตรวจสอบได้
หากพูดถึงการเติบโตก้าวหน้าในสายอาชีพของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ก็มักจะถูกพูดถึงการเติบโตก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว เปรียบได้ว่า เส้นทางนั้นถูกโรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ แต่หากย้อนกลับดูจริงๆ แล้ว จะพบว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เจอมรสุม เจอบททดสอบมาไม่น้อยและครั้งนี้เรียกได้ว่า หนักหนาเอาการ ถ้าผ่านครั้งนี้ไปไม่ได้ ก็อาจจะถึงขั้นปิดฉากชีวิตข้าราชการตำรวจเลยทีเดียว
วิบากกรรม ของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ในช่วงนี้ด้านคดีความ ดูจะหนักหน่วงเพราะนอกจากเมื่อวานที่ผ่านมา คณะกรรมการสอบปมขัดแย้ง ที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้น จะสรุปผลตามความเห็นตาม ศาล ว่ามีความผิดเข้าข่าย "ฐานฟอกเงิน" ตามข้อกล่าวหา ตำรวจ ปปป. ยังตรวจพบว่า พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ และลูกน้อง แสดงบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ และ ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบและชี้มูล อีก 2 ข้อหา