วันนี้ (25 ก.ย. 67) ศาลอาญารัชดา นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่พรรคก้าวไกล ฟ้องอดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณากรณี ยื่น กกต.กล่าวหาพรรคก้าวไกล ละเมิด พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มีแนวคิดล้มล้างการปกครอง พร้อมเรียกค่าเสียหาย 24 ล้านบาท นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้าฟังคำพิพากษาตามนัดหมายของศาลอาญา ในคดีที่ถูกพรรคก้าวไกลฟ้องหมิ่นประมาทผู้อื่น โดยการโฆษณาฯ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 24 ล้านบาท กรณีนี้สืบเนื่องมาจาก ที่นายณฐพร ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวหาว่าพรรคก้าวไกลละเมิด พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง นายณฐพร เปิดเผยว่า วันนี้ไม่มีความกังวลและมั่นใจว่าคดีน่าจะจบลงได้ เพราะปัจจุบันพรรคก้าวไกลถูกยุบไปแล้ว หลังศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า การกระทำของพรรคก้าวไกล เป็นความผิดฐาน ล้มล้างการปกครอง
ทุกอย่างเกิดขึ้นในสัปดาห์เดียวกัน ตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกล พร้อมตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค ก่อนนำมาซึ่งการเปิดตัวพรรคประชาชน และผู้นำทัพคนใหม่คือ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ยอดสมัครสมาชิกพรรคประชาชน กับยอดบริจาคเงินไปได้สวยเลย ข้อมูล ณ วันที่ 13 ส.ค. 67 ยอดสมัครสมาชิกพรรคประชาชนเกือบ 50,000 คน จากเป้าหมาย 100,000 คน ใน 1 เดือน ส่วนยอดบริจาคใกล้แตะ 25 ล้านบาท จากเป้าหมาย 10 ล้านบาท อาจเป็นการตอกย้ำวาทกรรมตายสิบเกิดแสน
จากพรรคก้าวไกล สู่พรรคประชาชน อุดมการณ์ทางการเมืองได้เปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะเรื่อง ม.112 ซึ่ง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ได้แสดงวิสัยทัศน์ถึงเรื่องนี้ไปบ้างแล้ว ซึ่งนักวิเคราะห์การเมืองประเมินว่า เส้นทางจากนี้ของพรรคประชาชน ก็อาจเจอกับความยากลำบากไม่น้อยไปกว่าพรรคก้าวไกลเช่นกัน
วันนี้ (8 ส.ค. 67) รศ. โอฬาร ถิ่นบางเตียว รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ม.บูรพา มองการเดินต่อไปของกลุ่ม สส. อดีตพรรคก้าวไกล กับนโยบายล่อแหลมที่อาจเป็นเหตุให้ถูกยุบพรรคอีก ควรไปต่อหรือพอเท่านี้ พร้อมแนะอย่าเทน้ำหนักด้านเดียว จุดเด่นด้านอื่น ๆ ของก้าวไกลยังมีอีกมาก เช่น กระจายอำนาจ สิทธิชุมชน การศึกษา การรักษาพยาบาล ฯลฯ
ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และเป็นจังหวะที่ศาลรัฐธรรมนูญ แถลงมติ "ยุบพรรคก้าวไกล" พร้อมตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค ทำให้ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นชี้แจงว่า ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรได้ เช่นเดียวกับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ต้องขอยุติบทบาทการทำหน้าที่ในตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1
กรมราชทัณฑ์ เปิดเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ให้นางสาวเบญจา แสงจันทร์ พร้อมคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร ตรวจเยี่ยมเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อศึกษาประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องขัง และผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี รวมถึงผู้ต้องขังในคดี ม.112
ดีเดย์ 7 ส.ค. 67 ชี้ชะตาพรรคก้าวไกล กรณี กกต.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มีการกระทำที่ล้มล้างการปกครอง หรือเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองหรือไม่ เรื่องนี้ยังถูกจับตาจากต่างประเทศ และแสดงท่าทีมา อย่าง สำนักข่าว VOA รายงานว่า เนื้อความในจดหมายแถลงการณ์ของคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ วุฒิสภา สหรัฐฯ ที่ส่งให้กับ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศของไทย ร้องขอให้ไทยยึดมั่นค่านิยมที่มีร่วมกัน และ เป็นหลักสำคัญในฐานะการเป็นหุ้นส่วนประเทศ กระทั่งในระดับอาเซียน มาเลเซียกินี รายงานอ้างถึง รัฐสภาอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน หรือ APHR ที่ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลว่า รัฐบาลจะพยายามปิดปากฝ่ายนิติบัญญัติด้วยศาล จึงเรียกร้องตุลาการไทยรักษาความเป็นอิสระ และรอบคอบถึงผลที่จะตามมาของสภานิติบัญญัติที่เกินขอบเขต อาจมีผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทย
เข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับการเดินหน้าตรวจสอบที่มาของปลาหมอคางดำ ในมือของอนุ กมธ.ศึกษาปัญหา ชุด นพ. วาโย อัศวรุ่งเรือง และ ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ 2 สส.พรรคก้าวไกล เดิมพันครั้งนี้คือการหาคำตอบว่า ใครจะต้องรับผิดชอบกับความเสียหาย ที่เชื่อว่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ในช่วง 10 กว่าปี ที่พบการระบาดใน 17 จังหวัดของประเทศ
2 คดีใหญ่ทางการเมืองเตรียมชี้ขาดในเดือน ส.ค.นี้ หลายฝ่ายประเมินความเป็นได้ พรรคก้าวไกล และ นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน จะรอด หรือร่วง ยังเป็นเรื่องที่ต้องจับตา แต่ที่เกิดขึ้นแน่ ๆ แล้วคือ นักการเมืองสายสีน้ำเงิน กำลังจะเป็นขั้วอำนาจใหม่การเมืองไทย และอาจขึ้นไปถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ทั้งหมดนี้จะเด่นชัดขึ้นหลังการตัดสินคดี ในวันที่ 14 ส.ค. นี้
เพจเฟซบุ๊กพรรคก้าวไกล - Move Forward Party โพสต์ข้อความถึงแฟนเพจ ระบุถึงวันตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกล ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ระบุว่า คดียุบพรรคที่ #ก้าวไกล กำลังเผชิญอยู่ ย่อมไม่ต่างกับสิ่งที่พรรคอนาคตใหม่เผชิญเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หรือพรรคการเมืองต่างๆ เจอมาในรอบเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา เพจฯ ยังโพสต์อีกว่า การยุบพรรคอาจจะยุบได้แค่องค์กรนิติบุคคล แต่ไม่สามารถหยุดชุดอุดมการณ์เช่นนี้ได้ และเราจะเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าวันที่ 7 สิงหาคมนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม จากอนาคตใหม่ สู่ก้าวไกล สู่อนาคต
ชัดเจนแล้ว...สำหรับคดียุบพรรคก้าวไกล ศาลรัฐธรรมนูญ นัดลงมติ-วินิจฉัย 7 สิงหาคมนี้ หลังพิจารณาแล้ว เห็นว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอ โดยไม่ต้องเปิดการไต่สวน นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยอมรับว่า เสียดายที่ไม่มีการเปิดไต่สวน เพราะเห็นว่า ยังมีประเด็นปัญหาที่ควรมีการไต่สวนให้ถึงที่สุดก่อน แต่ยังมั่นใจในข้อต่อสู้ทางกฎหมาย ทั้งกระบวนการยื่นคำร้องของ กกต. ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการกระทำของพรรคก้าวไกล ไม่ใช่การล้มล้าง หรือ ปฏิปักษ์ต่อการปกครอง พร้อมกับ ย้ำว่า ยังไม่ได้มีการเตรียมการ หากเกิดการยุบพรรค เนื่องจากยังไม่ถึงเวลา และต้องรอคำวินิจฉัยของศาลก่อน
ดีเดย์ 7 ส.ค. 67 วันชี้ชะตาพรรคก้าวไกล คดีล้มล้างและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง หลายฝ่ายประเมินว่ามีความเป็นไปได้สูงอาจถูกสั่งยุบพรรค พร้อมตัดสิทธิ์คณะกรรมการบริหารพรรค ส่งผลต่อ สส. 147 คน ของพรรค บางคนอาจต้องโทษหายไป บางคนก็มีกระแสข่าวว่าพรรคอื่นเตรียมคว้าตัวไปอยู่แล้ว ส่วนจะข้ามขั้วหรือไม่ ต้องติดตาม พร้อมจับตาพรรคใหม่ ที่อาจมีชื่อว่า “ก้าวใหม่” พร้อมผู้นำรุ่น 3 ทว่าทั้งหมดนี้ อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้าน ยังเชื่อว่าจากข้อต่อสู้ของพรรค อาจไม่ถึงขั้นยุบพรรคก็เป็นได้ โดยมีความเห็นของ ศ. ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานสภามหาวิทยาลัยธรรมชาติ ที่ยืนยัน โดยมีสาระสำคัญคือ การเสนอแนวคิดภายใต้วิถีรัฐธรรมนูญ ไม่อาจเซาะกร่อน บ่อนทำลาย และการยุบพรรคต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม ธำรงรักษา และไม่ใช่การทำลายประชาธิปไตย ซึ่งอาจเป็นจุดพลิกในคดีนี้
ศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมพิจารณาคดีคำร้อง "ยุบพรรคก้าวไกล" ในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ค. 67) หลังศาลรัฐธรรมนูญนัดให้คู่กรณี คือ นายชัยธวัช ตุลาธน และ กกต. ตรวจพยานหลักฐานเพิ่มเติม แต่วันนี้ นายชัยธวัช เปิดเอกสาร กกต. ชี้ชัดยื่นคำร้องยุบพรรคไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมคาดหวังขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดไต่สวน เพื่อให้พรรคก้าวไกลได้ชี้แจงข้อเท็จจริง