ตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วนเมื่อวานนี้ ตั้งแต่เอเชียถึงสหรัฐฯ หลังมาตรการภาษีของผู้นำสหรัฐฯ ยังคงกดดัน แม้จะมีข่าวลือเรื่องการระงับใช้มาตรการดังกล่าว ซึ่งภายหลังถูกระบุว่าเป็นข่าวปลอม แต่ทรัมป์ยังคงยืนยันไม่เปลี่ยนแปลงนโยบาย พร้อมขู่จะขึ้นภาษีจีนอีก 50%
ชาวยุโรปบางส่วนเริ่มคว่ำบาตรสินค้าอเมริกัน ตั้งแต่ครีมชีสไปจนถึงน้ำอัดลม เพื่อตอบโต้นโยบายภาษีของทรัมป์ แม้จะเริ่มจากกลุ่มเล็ก ๆ แต่กระแสนี้สะท้อนความไม่พอใจที่รุนแรงต่อสหรัฐฯ และจุดชนวนให้เกิดการถกเถียงว่าการแบนสินค้าจะส่งผลในสงครามการค้าหรือไม่
วลาดิเมียร์ ปูติน อาจไม่ได้มองสันติภาพในยูเครน แต่ตั้งเป้าพลิกโฉมระเบียบโลกให้รัสเซียเป็นผู้นำสูงสุด แม้ต้องขัดแย้งกับยูเครนและชาติตะวันตก ขณะที่ ทรัมป์ หวังสงครามจบเร็วโดยไม่สนใจอะไร ผู้เชี่ยวชาญเตือนนี่อาจเป็นโอกาสให้ปูตินก้าวสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า
ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 20 ม.ค. "ทรัมป์" เดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้าอย่างดุเดือด เริ่มจากแคนาดา-เม็กซิโก 25% จีน 10-20% เหล็ก-อะลูมิเนียมทั่วโลก 25% และล่าสุดขู่เก็บ 200% กับไวน์-สุรายุโรป ส่งผลให้คู่ค้าตอบโต้ด้วยภาษี บอยคอต และร้องต่อ WTO องค์การการค้าโลก
ทรัมป์ ขู่ขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงถึง 200% ตอบโต้ EU ที่จะขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ มูลค่ารวม 28,000 ล้านดอลลาร์ โดยจะมีผลเดือน เม.ย. ในจำนวนนี้รวมถึงวิสกี้จากสหรัฐฯ ที่ EU จะขึ้นภาษีร้อยละ 50 เพื่อตอบโต้การขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ
รัสเซียยืนยันแล้วว่ากำลังรอข้อมูลจากสหรัฐฯ เกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง 30 วัน ที่ทั้ง 2 ประเทศได้ประชุมกัน ขณะเดียวกันตอนนี้ตลาดการค้าโลก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียมกำลังร้อนๆ หนาวๆ หลังผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลก 25%