“พาณิชย์” เผยช่วยเหลือนาปรังไร่ละ1,000 บาทไม่เกิน 10ไร่ ชี้จะชดเชยนาปรังเป็นครั้งสุดท้ายรอบการผลิตหน้าไม่มี ยันเป้ารัฐบาลเน้นลดการอุดหนุน ยกระดับผลิตสร้างมูลค่าเพิ่ม กรมการค้าภายใน เร่งให้ชาวนาไปขึ้นทะเบียน พร้อมเสนอเข้าที่ประชุม ครม. เร็วที่สุด
ม็อบชาวนาบุกพาณิชย์ ร้องข้าวราคาตกต่ำ จี้รัฐบาลออก 2 มาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือดันราคาเกิน 8 พันบาท/ไร่ โอดต้นทุนผลิตพุ่ง ทั้ง ค่าปุ๋ย ยา ค่าเช่า แต่ราคาข้าวกลับร่วงทำชาวนาเจอวิกฤตขาดทุน ด้านรองปลัดพาณิชย์ ชี้ไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังพิจารณาหามาตรการช่วยเหลือ
เกษตรกรผู้ปลูกแตงกวา บ้านผาปู่จอม ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ จำใจเก็บผลผลิตเพื่อส่งขาย แม้ขณะนี้จะประสบปัญหาขาดทุน เนื่องจากผลผลิตตกต่ำ พร้อมระบุว่าได้ลงทุนหลายหมื่นบาทในการปลูกแตงพื้นที่กว่า 2 ไร่ แต่ขณะนี้ราคาตกต่ำขายหน้าสวนได้เพียงกิโลกรัมละ 3-4 บาท ขณะที่ต้นทุนอยู่กิโลกรัมละ 3 บาทกว่าแล้ว ยังไม่รวมค่าแรงงาน ก่อนหน้านี้เอาไปบริจาคและเอาไปเลี้ยงช้างแล้วหลายรอบ ขณะนี้จึงเดือดร้อนหนัก ต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ
สัปดาห์ที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎร มีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติโคนมและผลิตภัณฑ์นม 2 ฉบับ เกษตรกรโคนม มองว่านี่คือก้าวแรก และเป็นก้าวที่สำคัญ ในการนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายที่ทันสมัย และเป็นทิศทางที่ดี ทำให้มีความหวัง ถึงการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรมโคนมได้
วันนี้ 16 ธันวาคม 2567 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะดำเนินการโอนเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ตามมีมติ ครม. ที่ได้เห็นชอบโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการ และพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2567-2568 จ่ายไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท จำนวน 4.61 ล้านครัวเรือน
ไปดูปากท้องของชาวนา ตอนนี้ต้องติดตามการกลับมาส่งออกข้าวขาว ของอินเดียในรอบเกือบ 2 ปี มีแรงกระเพื่อมทันที ส่งผลทำให้ราคาข้าวลดลงแรง เพราะอินเดียถือเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก ทำให้ผู้ส่งออกข้าวต้องลดราคาตาม ราคาข้าวที่ผันผวนทำให้โรงสีบางแห่งต้องชะลอซื้อ ขณะที่ราคาข้าวเปลือกเจ้าที่เกษตรกรขายได้ราคาต่ำกว่า 10,000 บาท