ดีเอสไอ จับมือฝ่ายทะเบียน จ.เชียงใหม่ร่วมกันหาทางป้องกันการสวมสิทธิ์บัตรประชาชน
ภาพเครือข่ายยาเสพติด ที่มีการสวมบัตรประชาชนปลอม ที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ปปส. รวมรวมข้อมูลทางลับ นำมาแสดงกับทีมข่าวไทยพีบีเอส เพื่อยืนยันว่าปัญหาสวมบัตรประชาชน ของเครือข่ายยาเสพติด โดยมีเจ้าพนักงานปกครอง ร่วมทุจริต เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และเป็นจุดอ่อนไหวสำคัญ
เช่น นายจิระศักดิ์ ฉัตรวรนิติ หรืออาสือ เครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ที่พบมีการสวมบัตรประชาชน หลายครั้ง
จากการเปรียบเทียบ การตรวจสอบย้อนหลังทำให้พบว่าบัตรทั้ง 2 ใบเป็นภาพหน้านายจิระศักดิ์ แต่นามสกุลต่างกัน รวมไปถึงเลขทะเบียนบัตรประชาชน และการออกบัตรแต่ละครั้งจะต่างสถานที่กัน
แม้นายจิระศักดิ์ จะถูกจับได้ที่ประเทศลาว หลังพยายามหลบหนี และมีการสวมบัตรประชาชนทั้งในไทย และลาว แต่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ปปส. ระบุว่ายังมีผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดที่หลบหนี หมายจับกว่า 10,000 คน และการสืบสวนทางลับ พบว่ามีบางคนที่สวมบัตรประชาชนเพื่อฟอกตัวหลบหนีคดี
เป็นครั้งที่ 2 ที่ดีเอสไอนำปัญหาการสวมบัตรประชาชน และการทุจริตเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร์ ของผู้ไม่มีสถานะ มาพูดคุยที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ ที่พบปัญหาจำนวนมาก โดยเฉพาะถูกระบุเป็นศูนย์กลาง ในการเข้ามาทุจริตของบุคคลที่ไม่มีสถานะ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ แต่ครั้งนี้มีสำนัก ทะเบียนจังหวัด 75 หน่วยในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตัวแทนจากสำนักทะเบียน เป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการสวมบัตร และการทุจริตเพิ่มชื่อ เนื่องจากเป็นเจ้าพนักงานปกครองฝ่ายทะเบียน
มติการหารือ มีการยกตัวอย่างเครือข่ายยาเสพติดสวมบัตร นายถาวร สมจิตร และนายสมชัย รักยอดยิ่ง ที่ไทยพีบีเอสลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และพบความผิดปกติก่อนหน้านี้ รวมถึงการตรวจสอบพบความผิดปกติ โดยมีเจ้าพนักงานปกครอง เกี่ยวข้อง แต่กรมการปกครองชี้แจงว่ากรมการปกครองมีความพยายามจัดทำระบบอย่างรัดกุม และแก้ไข
ส่วนการอายัดเอกสารการขอเพิ่มชื่อ ของอำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ เกือบ 19,000 รายชื่อที่ตรวจสอบย้อนหลัง ที่ดีเอสไอรับมา เบื้องต้นการตรวจสอบพบเอกสารประมาณ 12,000 เท่านั้น นอกจากการวิเคราะห์ความผิดปกติ ดีเอสไอ ต้องตรวจสอบอีกว่า อีก 6,000 รายชื่อที่หายไป เพราะเหตุใดจึงมีหลักฐานปรากฎในข้อมูลแต่ไม่มีเอกสารอ้างอิง
แท็กที่เกี่ยวข้อง: