ประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศ เผยว่า มีบ.เอกชนที่เข้ายื่นเสนอราคาประมูลและเอกสารด้านเทคนิคโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ทั้งหมด 4 บ.และได้ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบข้อมูลด้านเทคนิคและราคาแล้ว คาดว่าเข้าสู่กระบวนการทำร่างสัญญาและจะแล้วเสร็จภายในปลายเดือน พ.ค.นี้
วันนี้ (3 พ.ค.) ทำเนียบรัฐบาล นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศ กล่าวสรุปการยื่นซองเสนอราคาประมูลและเอกสารด้านเทคนิคในโครงการดังกล่าวว่า หลังจากที่บริษัทกิจการร่วมค้าทีมไทยแลนด์ สละสิทธิ์ในการยื่นซอง ทำให้เหลือเพียง 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มบริษัท K Water, ITD Power China, Summit SUT และ ล๊อกเลย์ ที่เข้ามายื่นเอกสารทั้งต้นฉบับและสำเนา โดยแบ่งเป็นต้นฉบับรวม 105 กล่อง และสำเนาอีก 2014 กล่อง รวมเป็น 2119 กล่อง ซึ่งในส่วนของสำเนาได้มีการเก็บรักษาไว้ที่โรงยิม สำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อรักษาความปลอดภัยด้วย ส่วนต้นฉบับได้เก็บรักษาไว้ที่ตึกกบอ.
ทั้งนี้ ผู้แทนจากกระทวง ทบวง กรมต่างๆ ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การมหาชนและผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันการศึกษาต่างๆ จำนวน 50 คน โดยจะอ่านเอกสารสำเนาทั้งหมดและให้ความเห็นประกอบการตัดสินใจของคณะกรรมการ และจะมีคณะอนุกรรมการในการตรวจสอบคุณสมบัติของกลุ่มบริษัท โดยเกณฑ์การให้คะแนนจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ด้านแนวคิดการทำงานร้อยละ 20 การเสนอกรอบแนวคิดทางเทคนิคร้อยละ 60 และประสบการณ์การทำงานร้อยละ 20 ซึ่งบริษัทที่ได้คะแนนรวมเกินกว่าร้อยละ 80 จะได้รับการพิจารณาด้านราคาต่อไป ซึ่งผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดจะได้เปิดซองราคาก่อนและจะมีการเจรจาต่อรองราคาอีกครั้ง โดยจะยึดตามราคาจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบราชการ หากตกลงกันได้ก็จะเข้าสู่กระบวนการทำร่างสัญญาต่อไป โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายเดือน พ.ค.นี้ และรายงานเข้าสู่ที่ประชุม กบอ.เพื่อเสนอที่ประชุมครม.ต่อไป
โดยทุกโมดูลมีบริษัทที่ยื่นซองเทคนิคและราคาไม่ต่ำกว่า 2 ราย ขณะที่ในโมดูล เอ 6 และบี 4 คลังข้อมูลและการพยากรณ์เตือนภัย มีการยื่นเสนอเทคนิคและราคาจำนวน 3 กลุ่มบริษัท ได้แก่ K Water ,ITD Power China, ล็อกเลย์ และโมดูลบี 2 ผังเมืองและพื้นที่ปิดล้อม มีการยื่น 3 กลุ่มบริษัท ได้แก่ K Water ,ITD Power China และ Summit SUT ส่วนอีก 7 โมดูลที่เหลือเป็นการยื่นแข่งขันระหว่าง K Water และ ITD Power China
นายธงทองยืนยัน การถอนตัวของ 2 บริษัทใหญ่นั้น ไม่กระทบต่อการดำเนินการ ทั้งนี้ การเซ็นสัญญานั้นไม่ได้อยู่ในขอบเขตกำหนดเวลาของพระราชกำหนดกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท เพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 ที่จะหมดอายุในเดือนมิ.ย.นี้
ดังนั้น จึงสามารถเซ็นสัญญาภายหลังเดือนมิ.ย.นี้ได้ โดยพ.ร.ก.ดังกล่าวต้องการทราบเพียงตัวเลขกรอบวงเงินเท่านั้น เพื่อจะได้ดำเนินการตามระเบียบของกระทรวงการคลังต่อไป ทั้งนี้ หากไม่มีบริษัทที่ได้คะแนนรวมเกินร้อยละ 80 ก็ต้องมีการประมูลใหม่ และถอนจำนวนเงินออกจาก พ.ร.ก.เงินกู้ดังกล่าว
