วันนี้ (21 พ.ค.2563) พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และคณะ ได้เดินทางไปยังหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ จ.เชียงใหม่ เพื่อประชุมกับส่วนราชการต่างๆ และภาคประชาชน ร่วมกันถอดบทเรียน การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควันจากสถานการณ์ไฟป่าที่ผ่านมา
โดยทุกภาคส่วนตระหนักในบทเรียนถึงปัญหา จากความไม่เข้าใจ ความขัดแย้ง และความจำเป็นของประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ รวมทั้งการบริหารจัดการพื้นที่ทั้งมาตรการป้องกันและการแก้ปัญหา ที่จำเป็นที่ผู้บริหารในทุกระดับพื้นที่ต้องทำความเข้าใจ และสร้างการมีส่วนร่วมกันบนพื้นฐานของความเข้าใจ ความตระหนักรู้ ความเป็นเจ้าของและเห็นคุณค่าร่วมกันของพื้นที่ป่า รวมทั้งผลกระทบที่เกิดร่วมกัน
จึงจำเป็นต้องมีแผนงานต่างๆ ทั้งแผนบัญชาการและบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แผนการจัดการสนับสนุนอัตรากำลังและเครื่องมือ แผนการเฝ้าระวัง แผนการบริหารจัดการเชื้อเพลิง แผนการสร้างการรับรู้กับประชาชน แผนการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมกันทุกภาคส่วน แผนการผลักดันการถ่ายโอนภารกิจการดับไฟป่า แผนการฟื้นฟูป่าที่ได้รับความเสียหาย แผนการแก้ปัญหาหมอกควันข้ามชาติ รวมทั้งต้องมีการกำหนดตัวชี้วัดที่เป็นรูปธรรมในทุกมิติ
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณถึงความร่วมมือของ 17 จังหวัดภาคเหนือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จิตอาสาและภาคประชาชน กองทัพภาคที่ 3 และ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม หรือ ทส.ที่ร่วมกันรับมือกับไฟป่าและปัญหาหมอกควันที่ผ่านมา รวมถึงความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่าภาคเหนืออย่างยั่งยืน ผ่านการจัดประชุมถอดบทเรียน บนพื้นฐานของความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
นอกจากนี้รองนายกรัฐมนตรีขอให้ทุกหน่วยงาน ก้าวไปสู่เป้าหมายร่วมกัน ถึงความต่อเนื่อง ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างยั่งยืน โดยขอให้ ทส.จัดทำแผนและกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนืออย่างยั่งยืนให้เป็นรูปธรรม ก่อนนำมาเสนอ ครม.
พร้อมทั้งอบรมให้ความรู้และจัดชุดพิทักษ์ป่าประจำหมู่บ้านในพื้นที่เสี่ยงของ 9 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมดูแล รักษาป่าและสนับสนุนการดับไฟป่าอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยให้มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ที่ทันสมัยเพียงพอ พร้อมกับให้ประสานความร่วมมือกับอาเซียน แก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดนอย่างยั่งยืนร่วมกัน
ขณะเดียวกัน ขอให้กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด รับผิดชอบหลักกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับจังหวัดที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม โดยให้มีการสร้างความรู้ ความเข้าใจกับประชาชนทุกภาคส่วนในความร่วมมือกันเป็นเครือข่ายอนุรักษ์ป่าถึงระดับหมู่บ้าน ส่งเสริมบทบาทในการเป็นจิตอาสาและเครือข่ายดูแลเฝ้าระวังและดับไฟป่า การลดการเผาในที่โล่ง
และขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้ความรู้ ส่งเสริมอาชีพและการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมกันทำให้ป่าไม้และธรรมชาติกลับมาอุดมสมบูรณ์โดยเร็ว
แท็กที่เกี่ยวข้อง: