วันนี้ (3 ก.ค.2563) คณะนักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ เปิดเผยผลการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ป่วย COVID-19 ชาวอังกฤษ 999 คน รวมทั้งทำการทดลองในห้องปฏิบัติการ พบว่าเชื้อ COVID-19 ที่พบแพร่ระบาดทั่วโลกในปัจจุบันเป็นสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีการพัฒนาในส่วนหนามของไวรัส ทำให้มนุษย์สามารถติดเชื้อ COVID-19 ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม 3 ถึง 6 เท่า
นอกจากนี้ คณะนักวิจัยยังระบุด้วยว่าไม่พบหลักฐานว่า COVID-19 สายพันธุ์ใหม่นี้จะส่งผลทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรงมากขึ้นกว่าสายพันธุ์เดิม โดยผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ลงในวารสารทางการแพทย์เซลล์ชิ้นนี้เป็นการต่อยอดผลการวิจัยที่มีการเปิดเผยไปเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
ขณะที่ล่าสุดคณะนักวิจัยชุดนี้กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่าการกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาวัคซีนป้องกัน COVID-19 หรือไม่ เนื่องจากในปัจจุบัน วัคซีนที่อยู่ในระหว่างการทดลองส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่ส่วนหนามของไวรัส ซึ่งมีหน้าที่จับกับเซลล์มนุษย์เพื่อแพร่เชื้อ และอาศัยเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์เดิมในการพัฒนาวัคซีน
แท็กที่เกี่ยวข้อง: