วันนี้ (30 เม.ย.2568) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในระหว่างปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "ภารกิจพลิกฟื้นเศรษฐกิจ" โดยยอมรับในการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของประเทศและของโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยืนยันว่าได้มองเรื่องโอกาสและแนวทางการแก้ไขปัญหาไว้ด้วย ซึ่งนอกจากศักยภาพการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศเผชิญปัญหามาอย่างยาวนานแล้ว ยังต้องเจอกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ อีก
นายกฯ ชี้ว่า มูดีส์ปรับลดความน่าเชื่อถือของไทยเป็นเชิงลบ ไม่ใช่เป็นการให้คะแนน แต่เป็นการสะท้อนมุมมองต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งความเชื่อมั่นและปัจจัยการชี้วัด ซึ่งหมายถึงศักยภาพประเทศ นโยบายและความขัดแย้งทางการเมืองด้วย จึงต้องเร่งคลี่คลายข้อกังวลนั้น
นอกจากนี้ยังระบุถึงการขับเคลื่อนให้ GDP เติบโตขึ้น 3-4% การสร้างอุตสาหกรรมใหม่ การส่งเสริมการลงทุนต่างๆ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของคน การพัฒนาเทคโนโลยีหรือดิจิทัล รวมไปถึงการเป็นศูนย์กลางทางการบิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวและนักลงทุน ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในแต่ละระดับ สั้น กลางและยาว
พร้อมระบุว่า รัฐบาลไม่เพียงจะจับมือกับอาเซียนเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองกับสหรัฐฯ แต่จะร่วมมือกันด้วยมีจุดหมายปลายทาง เรื่องวีซา-อาเซียน เพื่อเป็นการจับกลุ่มและอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว และยังคงอ้างอิงถึงการจัดตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่ไม่ได้หมายถึงกาสิโนเท่านั้น แต่จะเป็นศูนย์รวมการลงทุนธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ โดยคาดว่าจะริเริ่มได้ในปีนี้และจะแล้วเสร็จ 2573
อ่านข่าว
“มูดีส์” ส่งสัญญาณไทยโตต่ำ หอการค้าฯแนะภาคธุรกิจเร่งปรับตัว