วันนี้ (3 พ.ค.2568) นายธรรมรัฏฐ์ งามแสง นายอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมด้วย ตำรวจ เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านพักหลังหนึ่ง ใน ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
จากการตรวจสอบพบว่า บ้านหลังนี้ตั้งอยู่กลางป่า 2 ข้างทางเป็นป่ายูคาลิปตัสและป่าอ้อย ระหว่างขอเข้าตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบชายคนหนึ่ง อ้างว่า เป็นพี่ชายเจ้าของบ้าน แสดงความไม่พอใจ เนื่องจากการเข้าตรวจสอบไม่มีหมายค้น เจ้าหน้าที่จึงชี้แจงเหตุผลการเข้าตรวจสอบ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะยินยอมพูดคุย แต่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
นายอำเภอกบินทร์บุรี เปิดเผยว่า สำรวจรอบบ้าน พบถุงบรรจุสมุนไพรในตู้กระจก ยังพบโอ่งน้ำหมักชีวภาพ มีการติดตั้งอุปกรณ์ลักษณะคล้ายโรงสกัดสมุนไพร และพบศาลาคล้ายที่พักสงฆ์ และพบพระภิกษุ 1 รูป
พี่ชายเจ้าของบ้าน อ้างว่า ไม่ได้เปิดเป็นสถานที่รักษาผู้ป่วยด้วยยาสมุนไพรตามที่เป็นข่าว ส่วนยาสมุนไพรที่พบในบ้านเอาไว้รักษาเอง และน้ำหมักที่เห็นในโอ่ง ใช้สำหรับรดน้ำต้นไม้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง และวันนี้ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ ก็ไม่พบผู้มารับบริการ ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า ที่นี่ใช้สมุนไพรรักษาโรคมานานเกือบ 20 ปีแล้ว และส่วนตัวเคยรับบริการ ผู้รับบริการส่วนใหญ่ เป็นคนนอกพื้นที่ ปกติจะมีผู้ป่วยมานอนรักษาตัว แต่วันนี้ที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบกลับไม่พบ
สำหรับการตรวจสอบเกิดขึ้นภายหลัง หญิงคนหนึ่งออกมาตั้งข้อสังเกตการเสียชีวิตของแม่ อายุ 61 ปี ว่า อาจเกี่ยวข้องกับการเข้ารักษาตัวในสถานที่ดังกล่าว เมื่อปีที่แล้ว
โดยเมื่อเดือน พ.ย.2567 แม่มีอาการ อ่อนเพลีย ง่วงนอน และหลงลืมจึงพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลจังหวัดอุตรดิตถ์ ระหว่างรอผลตรวจ CT SCAN สมอง ญาติได้พาไปตรวจที่คลินิกอายุรกรรม จ.สุโขทัย แพทย์ระบุว่า พบก้อนเนื้อในสมองหลายแห่ง
กระทั่งต้นเดือน ธ.ค. ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย แพทย์ประเมินว่า เข้าข่ายป่วยโรคมะเร็งสมอง
แต่แม่และญาติ ได้ตัดสินใจไปรับการรักษาด้วยสมุนไพร ใน จ.ปราจีนบุรี โดยให้ดื่มน้ำต้มดอกดาวเรือง และฉีดยาบางชนิด หลังเข้ารักษาในสถานที่ดังกล่าวเพียง 5 วัน ก็เสียชีวิต
ลูกสาวผู้เสียชีวิต ระบุว่า ระหว่างที่แม่รักษาด้วยสมุนไพร พยายามสอบถามข้อมูลจากญาติ แต่ไม่ได้รายละเอียดที่แน่ชัด และกรณีที่เกิดขึ้น ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี แต่ก็ฝากเตือนสังคม หากจะรักษาด้วยวิธีการใด ก็ควรศึกษาและตรวจสอบอย่างรอบด้าน
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ชี้แจงว่า หมอพื้นบ้าน มีหน้าที่ดูแลสุขภาพด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การใช้สมุนไพร การนวด แต่ไม่มีสิทธิ์ ฉีดยาเข้าเส้นเลือด ตามหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนหมอพื้นบ้าน
สมุนไพรที่ไม่ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย อาจปนเปื้อนสารพิษ หรือจุลินทรีย์ ที่เป็นอันตราย ทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือ ภาวะไตวายเฉียบพลัน แนะประชาชนควรตรวจสอบประวัติ ใบรับรองการเป็นหมอพื้นบ้าน ก่อนเข้ารับบริการ
อ่านข่าว :
พ่อเมืองเชียงรายสั่ง "งดใช้" น้ำกก-น้ำสาย ยังพบ "สารหนู" ปนเปื้อน