วันนี้ (5 พ.ค.2568) นายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (4 พ.ค.) เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการเรือดำน้ำลึก เรือดีพ อันดามัน ควีน ว่า เวลาประมาณ 10.30 น. ขณะนักท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ได้บนเรือ พบฉลามวาฬตัวเต็มวัย ความยาว 6-7 เมตร มีเครื่องมือประมง คาดว่าเป็นเศษเชือกเก่าหรืออวนเก่าติดพันอยู่บริเวณส่วนหาง

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ได้เข้าช่วยเหลือฉลามวาฬดังกล่าวโดยเร่งด่วน โดยในวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดำน้ำของอุทยานฯ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณกองหินริเชลิวด้วยการดำน้ำลึก เพื่อสำรวจและติดตามหาฉลามวาฬ

อย่างไรก็ตาม สภาพน้ำทะเลในวันนี้มีความขุ่น ทัศนวิสัยการมองเห็นใต้น้ำค่อนข้างต่ำประมาณ 5-10 เมตรเท่านั้น ทำให้ยังไม่พบฉลามวาฬตัวดังกล่าว

จากการสอบถามผู้ควบคุมนักดำน้ำลึกประจำเรือที่อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่าเมื่อวานนี้ได้พบเห็นฉลามวาฬตัวดังกล่าวถึง 2 ครั้ง ทั้งในช่วงเช้าและช่วงบ่าย แม้จะอยู่ในระยะไกล ส่วนวันนี้ยังไม่มีรายงานการพบเห็นฉลามวาฬตัวดังกล่าว
ทางอุทยานฯ ได้ประชาสัมพันธ์กับผู้ประกอบการเรือดำน้ำลึกทุกลำที่ลอยลำอยู่บริเวณกองหินริเชลิว หากพบฉลามวาฬตัวดังกล่าวให้รีบประสานมายังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพื่อเร่งดำเนินการช่วยเหลือต่อไป พร้อมขอความร่วมมือผู้ควบคุมนักดำน้ำลึกประจำเรือ ให้แจ้งกับนักดำน้ำทุกคนว่าหากพบฉลามวาฬให้เว้นระยะห่างและไม่เข้าใกล้จนเกินไป เพื่อความปลอดภัยของทั้งนักดำน้ำและตัวฉลามวาฬเอง

นอกจากนี้ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ได้ติดต่อประสานงานกับทีมสัตวแพทย์จากศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์อุทยานใต้ทะเลจุฬาภรณ์ และศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 (ภูเก็ต) เพื่อร่วมกันหารือแนวทางการช่วยเหลือฉลามวาฬ
ทั้งนี้ แผนการช่วยเหลือที่วางไว้ คือ แบ่งทีมทำงานเป็น 3 ทีม ประกอบด้วย ทีมปลดเชือก ซึ่งจะใช้ความระมัดระวังในการตัดเศษเชือกเก่า อวนและนำกลับขึ้นฝั่ง, ทีมควบคุมทิศทางสัตว์ และทีมเฝ้าระวังผู้ปฏิบัติงาน โดยเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและสัตว์ที่ทำการช่วยเหลือเป็นสำคัญ