วันนี้ (18 พ.ค. 68 ) นางสาววรรณ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย วัย 47 ปี เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ปลายเดือนมกราคม 2568 เธอได้สั่งซื้อสินค้าเป็นครีมทาหน้า ผ่านเพจ Facebook หลังจากนั้น มีพนักงานส่งสินค้าติดต่อมา ว่าจะนำสินค้ามาส่งให้ แต่รอถึง 1 สัปดาห์สินค้า ก็ยังไม่ส่งมา จนวันที่ 1 ก.พ. 2568 ช่วงบ่าย เธอได้รับข้อความผ่าน SMS ว่า “ขนส่งไม่สามารถจัดส่งพัสดุของคุณได้ กรุณาตรวจสอบเพื่อยืนยันส่งใหม่อีกครั้ง” นี่เป็นข้อความที่มิจฉาชีพ ส่ง SMS เข้ามาในโทรศัพท์มือถือ โดยข้อความนั้น แนบลิงก์ที่เชื่อมต่อไปยังแอปพลิเคชั่น LINE ซึ่งทำให้เธอเข้าใจว่า สินค้ามีปัญหา จึงกดลิงก์นั้น
หลังจากนั้น ผู้เสียหาย ได้คุยกับมิจฉาชีพผ่านทางแอปพลิเคชั่นLINE ซึ่งมิจฉาชีพ อ้างตัวเป็นฝ่ายบริการของบริษัทขนส่งพัสดุ โทรศัพท์มาหาเธอ บอกว่า สินค้าที่เธอสั่งมีปัญหา และจะได้รับเงินประกันคืน จำนวน 2,000 บาท พร้อมกับส่งลิงก์อีก 1 ข้อความ เชื่อมต่อเข้ากับแอปพลิเคชั่นธนาคารของเธอ มิจฉาชีพบอกให้เธอทำตามขั้นตอน
โดยไปเริ่มที่การตั้งค่า เปลี่ยนข้อความให้เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด และบอกให้เธอทำตามคำสั่ง หลังจากนั้นเธอก็ทำตามที่มิจฉาชีพบอก เพียงระยะเวลา 50 นาที เงินของเธอถูกโอนออกจากบัญชีธนาคาร 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นเงินกว่า 41,000 บาท ครั้งที่สอง 409,000 บาท เมื่อเข้าไปดูในแอปพลิเคชั่นจึงทราบว่า เงินถูกโอนไปหมดแล้ว เธอจึงรีบแจ้งความผ่าน สายด่วนตำรวจไซเบอร์ 1441 เพื่ออายัติบัญชี
แต่ภายในอีก 2 วันต่อมา เธอกลับได้รับครีมทาหน้าจริง และทางบริษัทครีมทาหน้า ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า มิจฉาชีพรู้ได้อย่างไรว่าเธอสั่งสินค้า หรือเป็นการสุ่มส่งข้อความ
จากวันนั้น จนถึงวันนี้ 3 เดือนแล้ว เธออ้างว่าคดียังไม่มีความคืบหน้า จึงมาร้องเรียนผ่านทีมข่าวไทยพีบีเอส เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการ และต้องการได้รับเงินคืน เนื่องจากเป็นเงินที่เธอจะเอาไว้ใช้จ่าย และเป็นค่าเทอมของลูกสาว
อ่านข่าว:
"นายกฯ"สั่งล้างบางพนันออนไลน์ ชี้มีเว็บพนันตามหัวเมืองใหญ่อีกเพียบ
สุดช้ำ! อาเจ็บหนัก หมอบอกแค่ปากถลอก สุดท้ายคอหักตาย
หวังแก้ปัญหา สภ.บางแก้ว รับฟังความเห็น ปชช.หลังรถติดหนัก ถ.บางนา-ตราด