ผู้ค้าย่านราชประสงค์เชื่อ 13 ก.ค.นี้ ไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรง

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมิน หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ชอบด้วยกฎหมาย และสั่งยุบพรรค จะเกิดความวุ่นวายทางการเมือง และส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ขณะที่ผู้ค้าย่านราชประสงค์ เชื่อว่าวันพรุ่งนี้จะไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงบานปลาย

นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ประเมินว่าในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดอ่านคำวินิจฉัยคำร้องเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ คงไม่เกิดเหตุรุนแรงขึ้น โดยการชุมนุมทั้งจากฝ่ายสนับสนุนและคัดค้านการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 จะจำกัดเพียงบริเวณพรรคการเมือง หรือศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่ก็อาจมีกลุ่มผู้ชุมนุมย่อย เคลื่อนขบวนไปตามสถานที่ต่าง ๆ แต่คงไม่กระทบกับการค้ามากนัก อย่างไรก็ตาม หากมีสัญญาณเกิดเหตุรุนแรง ก็พร้อมประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัย และจำกัดพื้นที่ไม่ให้สร้างความเสียหาย

ในขณะที่ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะผ่านไปด้วยดี ซึ่งหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรา รัฐบาลก็จะยังคงมีเสถียรภาพ แม้จะมีการชุมนุมเกิดขึ้น และหากศาลยกคำร้อง เชื่อว่าทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่หากตัดสินว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ชอบด้วยกฎหมาย และสั่งยุบพรรคเพื่อไทย ก็จะเกิดความวุ่นวายทางการเมือง ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน นักท่องเที่ยว และประชาชน โดยปัจจัยเสี่ยงที่กระทบเศรษฐกิจมากที่สุด ถึงร้อยละ 50 ยังเป็นปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป ขณะที่สถานการณ์การเมืองมีผลร้อยละ 30-40 และปัญหาอุทกภัยร้อยละ 20-30