กรณีการพบซากวาฬบูรด้า น้ำหนักเกือบ 20 ตัน บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และมีข้อสันนิษฐานว่าอาจถูกเรือขนาดใหญ่ชน
วันนี้ (26 พ.ย.2559) ยุทธนา โมกขาว ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ระบุ ว่า เรือสินค้าที่พบซากวาฬบูรด้าติดมาด้วยนั้น อาจไม่ใช่เรือที่ชนวาฬบูรด้า
โดยเจ้าหน้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง ชี้แจงข้อสงสัย เรือสินค้าที่พบซากวาฬบูรด้าติดมาด้วยคือ เรือ เอ็ม.วี.ไทเกอร์ แต่เมื่อตรวจสอบจากศูนย์ควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล ศรี ราชา พบว่าเรือเอ็ม .วี.ไทเกอร์ ออกจากท่าเรือเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านเกาะไต้หวัน เวียดนามก่อนเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบังและไม่จอดทอดสมอ
นอกจากนี้ ข้อมูลและสภาพทางกายภาพของเรือบรรทุกสินค้า ขนาดใหญ่จะมีเสียงดังแล่นได้ไม่เร็ว จึงเป็นไปได้ยาก ที่วาฬจะถูกเรือประเภทนี้พุ่งชน

ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งหรือทช. รายงานว่าวาฬบรูด้าที่ตายนั้น น่าจะเป็นวาฬต่างถิ่นจากทะเลอื่น เนื่องจากการตรวจสอบพบร่องรอยของการกัดของฉลามสายพันธุ์"คุ๊กกี้คัตเตอร์" ติดมากับซากวาฬบรูด้า ที่ไม่เคยพบในอ่าวไทย แต่จะต้องนำดีเอ็นเอ ไปตรวจวิเคราะห์ เพื่อทราบความชัดเจนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ผลตรวจกระเพาะอาหารของซากวาฬ ไม่พบเศษอาหารหรือขยะที่เป็นอันตราย แต่สันนิษฐานว่า วาฬบรูด้า ตัวนี้อาจมีอาการป่วยตายตามธรรมชาติ ก่อนถูกเรือชนและลากมายังท่าเรือแหลมฉบัง