เรกูเลเตอร์ ชี้แนวโน้มขึ้นค่าเอฟทีงวดใหม่ 37-38 สตางค์
การประชุมอนุกรรมการของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ เรกูเลเตอร์ เมื่อวานนี้ (23 เม.ย.) มีรายงานว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเฉพาะต้นทุนค่าก๊าซที่ปรับขึ้นงวดใหม่หรือหน่วยละ 37-38 สตางค์ โดยไม่ได้นำส่วนที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ.รับภาระอยู่หน่วยละ 18 สตางค์ มาคำนวณด้วย เพื่อเสนอที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานพิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปร หรือเอฟที งวดเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม ในวันที่ 25 เมษายนนี้
ด้าน นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ยอมรับว่า จำเป็นต้องปรับค่าเอฟที และมีแนวโน้มว่าจะปรับขึ้นมากกว่า 20 สตางค์ต่อหน่วย โดยให้ กฟผ. ช่วยรับภาระต้นทุนผลิตไฟฟ้าหน่วยละ 18 สตางค์ต่อไป หรือคิดเป็นมูลค่า 8,000 ล้านบาท แม้ กฟผ.ระบุก่อนหน้านี้แล้วว่าไม่สามารถรับภาระนี้ต่อไปได้
ขณะที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า หากคณะกรรมการฯ จะอนุมัติให้มีการปรับขึ้นค่าเอฟที ก็คงจะกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า โดยนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่าควรทยอยปรับขึ้นแบบขั้นบันได เนื่องจากภาคการผลิตมีต้นทุนค่าไฟฟ้าปีละกว่า 400,000 ล้านบาท ซึ่งการปรับค่าไฟฟ้าจะกระทบกับผู้ประกอบการมากกว่าการขึ้นราคาน้ำมัน ทั้งนี้สภาอุตสาหกรรมจะสอบถามความเห็นจากผู้ประกอบการ และเสนอให้เรกูเลเตอร์พิจารณา
แท็กที่เกี่ยวข้อง: