ดาวพฤหัสบดีก็มีวงแหวนนะ ! หลายคนอาจเข้าใจว่า ดาวเคราะห์ที่มีวงแหวนมีเพียงแค่ดาวเสาร์เท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว ดาวเคราะห์แก๊สขนาดยักษ์ทั้ง 4 ดวงในระบบสุริยะชั้นนอก ได้แก่ ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน ล้วนแต่มีวงแหวนเป็นของตัวเองเช่นกัน
แม้ว่าวงแหวนของดาวพฤหัสบดีจะไม่เด่นชัดเท่าของดาวเสาร์ แต่ก็มีอยู่จริง โดยวงแหวนของดาวพฤหัสบดีถูกพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1979 โดยยาน Voyager 1 ต่อมาข้อมูลจากยาน Galileo ของ NASA ที่โคจรรอบดาวพฤหัสบดีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995 ถึงปี ค.ศ. 2003 สามารถไขข้อสงสัยได้ว่า วงแหวนของดาวพฤหัสบดีเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
วงแหวนของดาวพฤหัสบดีประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ วงแหวนหลัก (Main Ring) ซึ่งอยู่ใกล้ตัวดาวมากที่สุด และวงแหวนจาง ๆ อีกสองชั้นที่เรียกว่า “กอสซาเมอร์” (Gossamer Rings) ขอบในสุดของวงแหวนอยู่บริเวณวงโคจรของดวงจันทร์เมทิส (Metis) ส่วนขอบนอกสุดอยู่ในวงโคจรของดวงจันทร์ธีบี (Thebe) ซึ่งวงแหวนเหล่านี้เกิดจากอุกกาบาตพุ่งชนเข้ากับดวงจันทร์บริวารขนาดเล็กที่อยู่ใกล้เคียง เศษฝุ่นและหินที่เกิดจากการพุ่งชนจะลอยขึ้นไปในอวกาศ และถูกอิทธิพลแรงโน้มถ่วงของดาวพฤหัสบดีทำให้เศษซากเหล่านี้โคจรรอบดาวพฤหัสบดี จนกลายเป็นวงแหวนในที่สุด
ภาพถ่ายนี้อาจเป็นภาพที่ไม่ได้คุ้นตามากนัก เนื่องจากเป็นภาพดาวพฤหัสบดีในช่วงคลื่นอินฟราเรด โดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศ เจมส์ เว็บบ์ (James Webb Space Telescope) เผยให้เห็นถึงรายละเอียดที่แตกต่างจากช่วงคลื่นแสงที่ตามนุษย์มองเห็น ไม่ว่าจะเป็น แถบเมฆที่คมชัด พายุจุดแดงใหญ่ รวมถึงวงแหวนฝุ่นทึบแสง ซึ่งในปัจจุบันการศึกษาดาราศาสตร์ในหลายช่วงคลื่น ทำให้นักดาราศาสตร์ทราบถึงโครงสร้างและคุณสมบัติทางกายภาพที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงคลื่น ช่วยให้เราเข้าใจวัตถุทางดาราศาสตร์ในทุก ๆ แง่มุม
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : NASA, อดิเทพ ขันคำ เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ สดร.
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech